อุตสาหกรรมการผลิตในปัจจุบันต้องการทั้งความแม่นยำ ความรวดเร็ว และความยืดหยุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการข้างต้น ทำให้ CGS ASIA พัฒนาฟังก์ชันใหม่ของซอฟต์แวร์ EXCESS-HYBRID II เป็นเวอร์ชัน 10 และได้เชิญผู้ผลิตเครื่องจักรทั้งหมด 3 แบรนด์มาเพื่อร่วมสัมมนาและจัดแสดงบูธโชว์ให้กับลูกค้าซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมผู้ผลิตแม่พิมพ์มากกว่า 70 คน งานสัมมนานี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ณ โรงแรมโนโวเทล บางนา

ฟังก์ชันใหม่ของ EXCESS-HYBRID II นี้ถูกพัฒนามาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้วยฟังก์ชันการจัดการไฟล์ แนะนำฟังก์ชันการออกแบบ และการตรวจสอบที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อลดเวลา พร้อมกันนั้นยังแนะนำการทำงานด้วยฟีเจอร์การลบคมชิ้นงาน (Deburring) สามารถกำหนดเส้นทางการเคลื่อนที่ของเครื่องจักรได้อย่างเหมาะสม

จุดเด่นจากเวอร์ชันใหม่ของ EXCESS-HYBRID II
■ ฟีเจอร์ File Selector
สามารถลงทะเบียน Quick Access ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ EXCESS-HYBRID II ไว้ในตัวเลือกไฟล์ได้ และตั้งค่าโฟลเดอร์ปัจจุบันที่ใช้งานอยู่เพื่อให้เข้าถึงโฟลเดอร์งานได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีตัวกรองสำหรับการดูแบบร่าง Drawing CAD และ CAM พร้อมกันอีกด้วย

■ ฟีเจอร์ Fillet/Chamfer
สามารถสร้างฟิลเล็ตและแชมเฟอร์ได้โดยการระบุความกว้างของคอร์ด เมื่อมุมแหลมและมุมป้านอยู่ตรงที่จุดตัดขอบของชิ้นงาน ทำให้ได้ความกว้างที่สม่ำเสมอสำหรับรูปร่างชิ้นงาน

■ ฟีเจอร์ Deburring Curve
เป็นคำสั่งใหม่สำหรับการสร้างเส้นโค้งของการลบคมโดยใช้เครื่องมือทรงกลม นอกจากนี้ยังสามารถสร้างเส้นโค้งเพื่อลบคมได้โดยการระบุทิศทางการตัดเฉือน เส้นผ่านศูนย์กลางของเครื่องมือ และความกว้างของการลบคม รวมถึงการเลือกขอบ ซึ่งเส้นโค้งนี้ใช้เป็นเส้นศูนย์กลางของเครื่องมือในการทำ CAM

■ ฟีเจอร์ Curvature
สามารถแสดงค่าความโค้ง/รัศมีความโค้งของรัศมีเว้าและโค้งนูนของชิ้นส่วนแต่ละส่วนได้ นอกจากนี้ยังสามารถดึงค่าสูงสุดและต่ำสุดจากพื้นผิวได้ นำไปสู่การเลือกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของเครื่องมือก่อนการตัดเฉือนได้อย่างแม่นยำ

เป็นระบบพิกัดงานที่ได้รับการพัฒนาให้รองรับข้อมูลการตัดเฉือนสำหรับชิ้นงานหลายชิ้นโดยสามารถระบุกำหนดจุดศุนย์ชิ้นงานได้ล่วงหน้า นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าการทำงานที่ใช้งานง่าย ระบุขั้นตอนการตัดเฉือนล่วงหน้าได้โดยตรง

เวอร์ชันใหม่ของ EXCESS-HYBRID II มีความยืดหยุ่นในการทำ CAM Machining และ Wire Cut ได้ นำไปสู่การลดความผิดพลาดในการทำงาน พร้อมกันนั้นยังสามารถรองรับการทำงานร่วมกับเครื่องจักรหลายรุ่น หลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักรจาก OKUMA และ SODICK เป็นต้น นอกจากการอัปเดตฟังก์ชันแล้ว เพื่อให้การทำงานออกแบบแม่พิมพ์ให้มีความรวดเร็วขึ้น CGS ยังมีฟังก์ชัน 3D CAD Option ซึ่งเป็นฟังก์ชันเสริมสำหรับการออกแบบแม่พิมพ์

SODICK กับ iGroove+ กลไกหมุนลวดอัตโนมัติเจ้าแรกของโลก

SODICK Wire-Cut EDM กับ iGroove+ นวัตกรรมกลไกหมุนลวดอัตโนมัติ เจ้าแรกของโลก บริษัท SODICK พัฒนา Core Technology ด้วยตนเอง ตั้งแต่ มอเตอร์เชิงเส้น (Linear Motor) ไปจนถึง ระบบควบคุมการจ่ายประกายไฟและการเคลื่อนแกน (K-SMC) เพื่อควบคุมระยะกาพและตำแหน่งการเคลื่อนที่ได้ละเอียดระดับไมโคร ช่วยยกระดับความแม่นยำและเสถียรภาพของ เครื่อง Wire-Cut EDM สำหรับงานแม่พิมพ์และชิ้นส่วนความเที่ยงตรงสูงในหลากหลายอุตสาหกรรม

ในงานสัมมนาครั้งนี้ SODICK นำเสนอ iGroove+ Edition (Wire-Cut EDM) — รุ่นที่ติดตั้งกลไก “i Groove+” ในไลน์อัปเครื่องตัดด้วยลวดของ Sodick เพื่อยืนยันสมรรถนะด้านความเที่ยงตรงของการตัดมานำเสนอภายในงาน

■ iGroove+ Edition (Wire-cut EDM) คืออะไร?
เทคโนโลยี “กลไกหมุนลวด” ที่ทำให้เส้นลวดหมุนระหว่างการเก็บผิว (finishing) เพื่อลดผลกระทบจากการสึกของผิวลวด และรักษาให้ผิวลวด “สดใหม่” ตั้งแต่จุดบนสุดถึงล่างสุดของชิ้นงาน ส่งผลให้มิติงานเสถียรและคุณภาพผิวสม่ำเสมอมากขึ้น (เป็นเทคโนโลยีรายแรกของโลกที่ติดตั้งกับเครื่อง Wire-cut EDM ของ Sodick)

ผลลัพธ์เด่น
• ความเร็วการกลึงตัดโดยรวมดีขึ้นราว 20% พร้อมความแม่นยำที่ดีขึ้นจากชุดควบคุมไฟฟ้าก้าวหน้า (Digital HF control).
• การใช้พลังงาน ลดลงประมาณ 20% และการใช้ลวดในช่วงงานเก็บผิว ลดได้สูงสุด ~30% ช่วยลดต้นทุนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม.

เหมาะกับงานลักษณะใด
เหมาะอย่างยิ่งกับงานแม่พิมพ์/ชิ้นส่วนความเที่ยงตรงสูง และงานแผ่นหนา/ชิ้นงานที่ต้องการผิวสม่ำเสมอตลอดความสูงของชิ้นงาน เช่น แม่พิมพ์มอเตอร์คอร์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ.

จุดเด่นของ iGroove+ Edition (Wire-cut EDM)
・ลดต้นทุนการผลิต: กลไก “หมุนลวด (i-groove)” ทำให้ช่วงเก็บผิวใช้ผิวลวดที่ “สดใหม่” ตลอด ช่วยลดการกินลวด และมีระบบปั๊มประหยัดพลังงานติดตั้งมาตรฐานเพื่อลดการใช้ไฟ
・ผิวงานสม่ำเสมอจากบนถึงล่าง: ลดเส้นริ้ว/ความไม่สม่ำเสมอโดยเฉพาะงานชิ้นหนา ทำให้คุณภาพผิวดีขึ้นและลดงานเก็บมือภายหลัง
・ความเสถียรและแม่นยำในการตัด: ควบคุมการจ่ายประกายไฟแบบดิจิทัล (Digital HF control) ช่วยรักษาสภาพการตัดให้เหมาะสมสม่ำเสมอแม้สภาพของน้ำหรือความหนาชิ้นงานเปลี่ยนแปลง

OKUMA Techno กับโซลูชันที่ตอกย้ำความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ในงานสัมมนาครั้งนี้ บริษัท OKUMA Techno (Thailand) ได้ตอกย้ำความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการนำฟังก์ชัน Thermo-Friendly Concept, Servo Navi และ Hyper-Surface มานำเสนอภายในงาน

■Thermo-Friendly Concept คืออะไร?
เป็นเทคโนโลยีควบคุมการโก่งตัวทางความร้อนที่ผสมผสานระหว่างการออกแบบเครื่องจักรกับระบบควบคุม CNC นำไปสู่การตัดเฉือนที่มีความแม่นยำและเสถียร แม้จะดำเนินการในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิตลอดเวลาก็ตาม จุดเด่นของ Thermo-Friendly Concept คือ ความสามารถในการลดการทำงานและต้นทุน โดยสามารถทำให้เครื่องเริ่มต้นทำงานได้โดยไม่ต้องอุ่นเครื่องหรือไม่ต้องรอให้เครื่องอยู่ในอุณหภูมิที่มีความเหมาะสม อีกทั้งยังไม่ต้องปรับหรือตั้งค่าด้วยมือ นำไปสู่การตัดเฉือนที่มีความแม่นยำ เสถียร และมีความเรียบของผิวที่สม่ำเสมอ แม้จะมีรอบการผลิตที่ยาวนาน

■Servo Navi คืออะไร?
เป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะที่จะช่วยปรับการทำงานของระบบแมคคานิคแต่ละแกนในเครื่องจักร โดยสามารถปรับน้ำหนักของชิ้นงานและ Jig ที่ติดตั้งไว้บนเครื่องจักร นำไปสู่การเพิ่มความเร็วในการผลิตและความแม่นยำในการขึ้นรูป เหมาะสำหรับชิ้นงานที่มีน้ำหนักมาก

▲ ตัวอย่างการใช้งาน Servo Navi

จุดเด่นของ Servo Navi
・Work Weight Auto Setting: คาดคะเนน้ำหนักของชิ้นงานและ Fixture บนโต๊ะงาน แล้วปรับค่าเซอร์โวและเร่งความเร็วให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ช่วยให้เวลาในการทำงานสั้นลงโดยความแม่นยำคงเดิม
・Reversal Spike Auto Adjustment: ปรับพารามิเตอร์เพื่อชดเชยปัญหาการสะดุดขณะกลับทิศทาง (Reversal spike) ที่เกิดจากการสึกหรอของเครื่อง เพื่อรักษาคุณภาพพื้นผิวและความเสถียรในการใช้งาน
・Vibration Auto Adjustment: เมื่อเครื่องเกิดการสั่นสะเทือนหรือมีเสียงดัง Servo Navi จะปรับการควบคุมเซอร์โวให้ลดเสียงและการสั่นลง นำไปสู่การยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักรได้

■Hyper-Surface คืออะไร?
เป็นฟีเจอร์สำหรับควบคุมที่อยู่ในระบบ CNC โดยจะดำเนินการตรวจจับความผิดปกติของคำสั่งจากข้อมูลที่ส่งมากจากระบบ CAM เช่น คำสั่งจัดตัดที่ไม่สม่ำเสมอหรือความเร็วในการป้อนที่แปรผัน อีกทั้งยังชดเชยความเบี่ยงเบนโดยอัตโนมัติผ่านระบบ CNC ของ OKUMA Techno เพื่อให้ผิวชิ้นงานมีความเรียบเนียนตามที่ต้องการโดยไม่ต้องปรับโค้ดจาก CAM Hyper-Surfaceสามารถประหยัดเวลาและแรงงานในการทำงานได้ เพราะลดการขัดผิวของชิ้นงาน ซึ่งเหมาะสำหรับงานแม่พิมพ์ ชิ้นส่วนการบินและอวกาศ ตลอดจนชิ้นส่วนที่มีพื้นผิวรูปทรงอิสระที่ต้องการคุณภาพสูงและลดการขัดแต่งได้

▲ ตัวอย่างการใช้งาน Hyper-Surface

ปัญหาที่ Hyper-Surface สามารถแก้ไขได้

ก่อน	หลัง
มีรอยขีดข่วนและพื้นผิวไม่สม่ำเสมอจากการเคลื่อนที่ไม่เสถียร	ปรับค่าของตำแหน่งและความเร็วให้สอดคล้องกัน
ต้องขัดผิวด้วยมือ ทำให้ใช้เวลาและแรงงานเป็นอย่างมาก	ลดหรือปรับให้การขัดผิวน้อยลง
สั่งงานที่เป็นเส้นโค้งหรือแนวเส้นที่ซับซ้อนยาก	ปรับ Feed rate ให้มีความคงที่ ทำให้ลดความไม่สม่ำเสมอกันของเส้นขอบและช่องว่างระหว่าง Cutter Paths

KOMATSU กับเทคโนโลยี Servo Press และ KOMTRAX

บริษัท KOMATSU เป็นผู้ผลิตเครื่องจักรประเภทเครื่อง Stamping press และ Fabricating machine จากประเทศญี่ปุ่น โดย Komatsu Industries (Thailand) Co., Ltd. เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรและการบริการหลังการขาย ซึ่งสต๊อกอะไหล่ต่างๆมีพร้อมให้บริการที่ประเทศไทย และโชว์รูมที่มาพร้อมสต็อกเครื่องจักรใหม่ เพื่อลดเวลารอคอยเมื่อมีการสั่งซื้อ และโชว์รูมนี้ยังพร้อมเปิดจัดอบรมการใช้งานและการดูแลรักษาเครื่องจักรให้กับลูกค้า รวมถึงมีการจัดงานสัมมนาอีกด้วย

สำหรับงานสัมมนาในครั้งนี้ บริษัท KOMATSU ได้นำ Servo Press และ KOMTRAX มาแนะนำภายในงาน โดยมีรายละเอียดดังนี้

■Servo Press จาก KOMATSU คืออะไร ทำไมได้รับความนิยมทั่วโลก?
Servo Press คือ เครื่องปั๊มที่ใช้ “เซอร์โวมอเตอร์” เป็นกลไกในการขับเคลื่อนหลัก แทนการใช้ระบบกลไกแบบดั้งเดิมอย่าง flywheel และ clutch brake หรือระบบไฮดรอลิกแบบเดิม ทำให้สามารถควบคุมการทำงานได้อย่างแม่นยำสูง เครื่อง Servo Press ของ KOMATSU ออกแบบมาเพื่อรองรับวัสดุที่มีความแข็งแรงสูงในปัจจุบัน ด้วยการเคลื่อนที่ของสไลด์ที่ควบคุมได้อย่างอิสระ สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้านการผลิตที่ต้องการความแม่นยำสูง พร้อมๆกับฟังก์ชันและคุณสมบัติที่ช่วยให้การผลิตง่ายขึ้น และเป็นเครื่องจักรที่มีความเอนกประสงค์เพื่อรองรับงานใหม่ๆในอนาคตได้

▲ ลักษณะการเคลื่อนที่ของ motion อย่างอิสระของ Servo Press

จุดเด่น Servo Press ของ KOMATSU
สำหรับจุดเด่นที่มีเฉพาะในเครื่อง Servo Press ของ Komatsu คือ “Linear scale” ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่เราติดตั้งให้กับเครื่อง Servo Press ของ Komatsu เท่านั้น โดยประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจาก Linear Scale นั้น คือ สามารถปรับปรุงและเพิ่มความแม่นยำในการผลิตให้มากขึ้น ช่วยลดของเสียในกระบวนการผลิตได้และอื่นๆ

▲ ตัวอย่างฟังก์ชันช่วยเหลือสำหรับการผลิตผ่านคุณสมบัติของ Linear Scale จาก KOMATSU

■ระบบ KOMTRAX จาก KOMATSU คืออะไร?
KOMTRAX เป็นระบบสำหรับตรวจสอบข้อมูลการทำงานของเครื่องจักรจากระยะไกล ที่ถูกพัฒนาโดย KOMATSU เอง เมื่อเครื่องจักรติดตั้งระบบ KOMTRAX คุณจะตรวจสอบสถานะการทำงาน และข้อมูลต่างๆได้ทุกเมื่อทุกที่ผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยฟังก์ชันการสื่อสารที่ติดตั้งมาในเครื่องจักร ซึ่งระบบนี้เป็นคุณลักษณะมาตรฐานที่มาพร้อมกับเครื่องจักร โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในติดตั้งและการให้บริการสื่อสารข้อมูล

คุณสมบัติเด่นของ KOMTRAX
1. บอร์ดการผลิตปัจจุบัน: แสดงสถานะการทำงานของเครื่องจักรทั้งหมดบนหน้าจอเดียว คุณสามารถตรวจสอบสถานะการทำงานปัจจุบันของเครื่องจักรทั้งหมดในโรงงานได้
2. การตรวจสอบการทำงาน: มีการแสดงสถานะการทำงานของแต่ละเครื่องจักรและแสดงสถานะการทำงานแยกเป็นสี 5 สี ง่ายต่อการทำความเข้าใจ นอกจากนี้ สามารถตรวจสอบจำนวนการผลิตสะสมต่อวันได้จากกราฟ
3. การควบคุมการบำรุงรักษา: จัดการเวลาการทำงานของเครื่องจักร คุณสามารถตรวจสอบเวลาของงานบำรุงรักษาตามสถานะการทำงานได้ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณป้องกันเครื่องจักรขัดข้องกะทันหันด้วยการบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่กำหนดโดยไม่มีข้อผิดพลาด
4. แสดงสัญญาณเตือนหรือข้อผิดพลาด (Alarm/Error): คุณสามารถวิเคราะห์สัญญาณเตือนที่ผ่านมาได้จากประวัติสัญญาณเตือน ด้วยการตรวจสอบสถานะเครื่องจักรล่วงหน้าจากระยะไกล

▲ ตัวอย่างบอร์ดสำหรับแจ้งเตือนของ KOMTRAX

KOMTRAX ถือเป็นระบบ IoT สำหรับการจัดการระบบเครื่องจักรภายในโรงงาน โดยผู้ใช้งานสามารถใช้เป็น “Kaizen Tool” เพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ กล่าวได้ว่าเป็นระบบสำหรับสนับสนุนการผลิตในยุคใหม่ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูล การป้องกันปัญหา และการสังเกตการณ์จากระยะไกล

ก้าวสู่อนาคตของอุตสาหกรรมการผลิตที่มีความแม่นยำ คุณภาพสูง และรวดเร็วผ่าน EXCESS-HYBRID II

“ในการก้าวสู่อนาคตของอุตสาหกรรมการผลิตที่มีความแม่นยำ คุณภาพ และความรวดเร็ว คือหัวใจสำคัญที่ลูกค้าต้องการควบคู่กับการลดต้นทุน ซึ่ง EXCESS-HYBRID II ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นงานโลหะหรือพลาสติก เรามีเครื่องจักรที่หลากหลายและได้มาตรฐานสากล ส่งออกไปทั่วโลก ลูกค้าจึงมั่นใจได้ในคุณภาพระดับโลก พร้อมกันนั้นการรับฟังเสียงจากผู้ใช้งานโดยตรงยังเป็นแรงผลักดันให้เราพัฒนาฟังก์ชันใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เครื่องจักรของเราไม่ใช่เพียง “ตัวเลือกเสริม” แต่กลายเป็น ‘มาตรฐานใหม่’ ของวงการผลิตในอนาคต” (คุณเชาวลิต ตัวแทนจากบริษัท CGS ASIA กล่าว)

▲ ตัวอย่างภาพรวมงานสัมมนา

หากลูกค้าสนใจซอฟต์แวร์ CAD/CAM จาก CGS ASIA ไม่ว่าจะเป็น EXCESS-HYBRID II หรืออื่นๆ สามารถติดต่อเราได้ผ่านแบบฟอร์มด้านล่างนี้