Array ( [0] => stdClass Object ( [id] => 1 [company_id] => 5 [image_url] => company-5-i1.jpg [image_link] => [image_popup] => 0 [slide_id] => 1 [slide_list_name] => all ) [1] => stdClass Object ( [id] => 1 [company_id] => 5 [image_url] => company-5-2.jpg [image_link] => [image_popup] => 0 [slide_id] => 1 [slide_list_name] => all ) )
  • HOME
  • >
  • NEWS
  • >
  • FILSTAR นวัตกรรมล้ำค่าที่เกิดจากการพัฒนาของช่างฝีมือในเมืองเล็กๆ สู่สินค้ายอดฮิตและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (ตอนท้าย)

FILSTAR นวัตกรรมล้ำค่าที่เกิดจากการพัฒนาของช่างฝีมือในเมืองเล็กๆ สู่สินค้ายอดฮิตและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (ตอนท้าย)

15/07/2019
KAZUAKI TAKAHASHI
President

(บทความต่อจากครั้งที่แล้ว)

"FILSTAR" สินค้ายอดนิยมสำหรับผู้ผลิตรถยนต์และเครื่องจักรกล

หลังจากที่จำหน่าย "FILSTAR" ให้กับบริษัท TOYOTA MOTORS ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับหนึ่งของโลกแล้ว ธุรกิจของบริษัทก็เติบโตในเชิงบวกขึ้นเรื่อยๆ ไม่เพียงแค่ผู้ผลิตภัณฑ์รถยนต์เท่านั้น บรรดาผู้ผลิตเครื่องจักรกลก็มีการใช้น้ำในไลน์การผลิตด้วยเช่นกัน ดังนั้น เราจึงได้รับการสอบถามจากบรรดาผู้ผลิตที่ต้องการอุปกรณ์กรองมากขึ้น

บริษัท Industria

ยอดจำหน่ายของ "FILSTAR" นั้นมากกว่าการแปรรูปชิ้นส่วนที่เป็นธุรกิจเดิม ในตอนนั้นผมจึงได้รับการส่งต่อธุรกิจจากประธานบริษัทซึ่งเป็นคุณพ่อของผมเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว คุณพ่อซึ่งแต่เดิมเคยเป็นช่างฝีมือ ตอนนี้ได้กลับไปทำงานที่ตนเองรักอย่างแข็งขันอีกครั้ง


"ต้องการนำ ‘แนวคิด’ ของช่างฝีมือมาสร้างแบรนด์" ก่อให้เกิดเป็นชื่อบริษัทใหม่นามว่า "Industria"

สมัยเด็กๆ ผมเคยมีความคิดเห็นไม่ตรงกันกับคุณพ่อ เนื่องจากคุณพ่อต้องทำงานเปื้อนคราบน้ำมันตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำทุกวัน หากให้พูดจากใจจริงแล้วผมไม่ค่อยชอบที่คุณพ่อทำเช่นนั้น แต่อย่างไรก็ตามคุณพ่อก็ยังเป็นคุณพ่ออยู่วันยังค่ำ พอได้กลับไปที่บ้านและเริ่มทำงานในบริษัทแล้วผมกลับสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่เป็น "แนวคิด" ของบรรดาเหล่าช่างฝีมือโดยเริ่มจากคุณพ่อของผมที่คอยทุ่มเทเวลาให้กับการผลิตครับ

เศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นเจริญเติบโตได้จากสิ่งที่บรรดาเหล่าช่างฝีมือสร้างขึ้น หลังจากที่คิดเช่นนั้นแล้ว ผมจึงคิดว่าสักวันจะต้องนำ "แนวคิด" ของบรรดาเหล่าช่างฝีมือมาสร้างแบรนด์ให้จงได้ "Industria" ซึ่งเป็นชื่อบริษัทในปัจจุบันนี้ก็ได้รับอิทธิพลมาจากแนวคิดในตอนนั้น ถือเป็นก้าวแรกในการสร้างแบรนด์ของเรามาจวบจนถึงทุกวันนี้ครับ

สำหรับช่างฝีมือที่ชอบทำงานของตนเองอย่างเงียบๆ และไม่ชอบความหวือหวานั้น การยอมอ่อนข้อให้กับปัญหาถือเป็นสิ่งที่น่าอัปยศอดสูมากทีเดียวครับ เราจะต้องแก้ไขปัญหาที่พบในระดับที่คนทั่วไปสามารถยอมรับได้เท่านั้นครับ ในตอนนั้นคำตอบมีเพียงแค่ขาวกับดำเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นคำตอบที่เรียบง่ายมากครับ ผมจึงได้นำ "แนวคิด" ดังกล่าวมาใช้เป็นสีประจำของบริษัทก่อให้เกิดเป็นตัวอักษรสีดำคำว่า "Industria" บนพื้นสีขาว รวมทั้งได้นำแนวคิดดังกล่าวนั้นใส่ลงไปในโลโก้ของบริษัทอีกด้วยครับ

บริษัท Industria


ต้องการขยายตลาดไปยังต่างประเทศโดยเริ่มจากประเทศไทยภายใต้ความภาคภูมิใจกับคำว่า "Made in Japan"

ปัจจุบันบริษัท Industria ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเน้นไปที่การวิจัยและพัฒนา รวมทั้งสร้างนวัตกรรมตามนโยบายของประเทศญี่ปุ่น (กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม) บริษัทเราไม่มีโรงงานผลิตเป็นของตนเองแต่เราจ้างโรงงานที่เป็นคู่ค้าทางธุรกิจทั้งหมด 6 แห่งให้ทำหน้าที่ผลิตแทน เรามีแผนเพิ่มโรงงานการผลิตในอนาคตหากได้รับการสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้น

สิ่งนี้เป็นการตัดสินใจในเชิงกลยุทธ์ของเรา หลังจากที่เคยประสบกับภาวะยอดจำหน่ายลดลงครึ่งหนึ่งจากปรากฏการณ์ Lehman shock ทำให้โรงงานหลายแห่งต้องย้ายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศเป็นจำนวนมาก เนื่องจากต้นทุนค่าแรงยิ่งถูกมากเท่าใด กำไรของบริษัทจะเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น ทั้งนี้เรากลับไม่ทำเช่นนั้น เนื่องจากเราต้องการรักษาคุณภาพในแบบฉบับของประเทศญี่ปุ่นและความภาคภูมิใจในแบรนด์ที่ได้ชื่อว่า "Made in Japan" นั่นเอง

ในทางกลับกันเรามุ่งมั่นที่จะจัดตั้งฐานการจำหน่ายในต่างประเทศแทน เนื่องจากตอนนี้บรรดาผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นหลายพันรายได้ขยายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องจำหน่าย "FILSTAR" จากประเทศญี่ปุ่นให้กับพวกเขา เราได้เริ่มพิจารณาการขยายตลาดไปยังต่างประเทศซึ่งรวมถึงประเทศจีน, เกาหลีใต้, ยุโรป, ประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จนในที่สุดได้เลือกมาจัดตั้งที่ประเทศไทยในปี 2014 ครับ

เนื่องจากประเทศไทยมีบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นอยู่หลายแห่งทำให้เกิดการถ่ายทอดวัฒนธรรมทางด้านธุรกิจของประเทศญี่ปุ่นไปยังผู้คนท้องถิ่นเป็นที่เรียบร้อย ก่อนอื่นเราต้องการสั่งสมประสบการณ์ในตลาดที่มีความเข้มแข็งนี้ ดังนั้น เราจึงได้ทำการฝึกอบรมและพัฒนาวิศวกรชาวไทยขึ้นมาครับ


■หากท่านมีความสนใจใน "FILSTAR" อุปกรณ์กรองอุตสาหกรรมของบริษัท INDUSTRIA แล้ว กรุณาสอบถามได้จากแบบฟอร์มของบริษัทหรือจากหัวข้อ "Contact Us" บนเว็บไซต์



แบบฟอร์มสอบถามข้อมูล

โปรดติดต่อเราโดยกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง

สามารถติดต่อได้ทางเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล

KOA-SHA (THAILAND) ผู้ให้บริการเว็บไซต์ (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "บริษัทของเรา") จะให้บริการต่างๆ (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "บริการนี้") ตามนโยบายความเป็นส่วนตัว (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "นโยบายนี้") ดังต่อไปนี้

คำนิยามของข้อมูลส่วนบุคคล

ในนโยบายนี้ คำว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวบุคคลที่ยังดำรงชีวิตอยู่ ชี้ถึงการที่สามารถแยกแยะตัวบุคคลได้จากชื่อและนามสกุล, วันเดือนปีเกิด และการให้รายละเอียดอื่นๆ รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง (รวมถึงข้อมูลที่สามารถเทียบเคียงกับข้อมูลอื่นๆ ได้ง่าย ซึ่งจะช่วยให้สามารถระบุตัวบุคคลได้)

การรับข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทของเราจะรับข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีความยุติธรรม

การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทของเราจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจ ภายในขอบเขตวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ ดังต่อไปนี้

  • เพื่อให้ข้อมูลที่เหมาะสมที่สุดแก่ผู้ใช้แต่ละรายในบริการนี้
  • เพื่อเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงคุณภาพของบริการนี้โดยการวิเคราะห์ทางสถิติ
  • เพื่อรองรับในการติดต่อสอบถามที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้
  • เพื่อเตรียมข้อมูลจากการดาวน์โหลดแคตตาล็อกให้กับบริษัทสมาชิกแต่ละแห่ง และดำเนินการทำแบบสอบถามที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้
  • เพื่อที่จะส่งคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และเคมเปญที่ดำเนินการโดยบริษัทของเรา
  • อื่นๆ วัตถุประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้กับวัตถุประสงค์การใช้งานที่ระบุในข้างต้น
เกี่ยวกับ Cookie

บริษัทของเราใช้ cookie ในเว็บไซต์ของบริการนี้ อีกทั้งในระบบการโฆษณาก็มีบางส่วนที่ใช้ cookie ด้วย Cookie เป็นเทคโนโลยีที่ใช้บันทึกประวัติการใช้งานที่ส่งและรับระหว่างเบราเซอร์กับเซิร์ฟเวอร์ลงเป็นไฟล์ในคอมพิวเตอร์เทอร์มินอลของผู้ใช้ หากคุณไม่ต้องการให้บริษัทของเราใช้ cookie ก็สามารถตั้งค่าปฏิเสธการใช้ cookie ในเบราเซอร์ของคุณเองได้ อย่างไรก็ตามในกรณีที่คุณปฏิเสธ cookie อาจเกิดผลกระทบตอนที่คุณเข้าใช้บริการนี้ในเว็บไซต์

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่สาม

บริษัทของเราจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่สามโดยไม่ได้รับความยินยอมจากตัวบุคคลก่อนล่วงหน้า เว้นในกรณีที่มีการบัญญัติตามกฎหมาย

อนึ่ง บริษัทของเราอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและเปิดเผยแก่บุคคลที่สามในกรณีดังต่อไปนี้

  • ในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้เอง
  • ในกรณีที่ได้รับการเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลจากคำพิพากษา, คำตัดสิน และคำสั่งตามกฎหมายของศาลและองค์กรบริหารต่างๆ เป็นต้น
  • ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้มาตรการการจัดการเพื่อป้องกันการรุกรานและป้องกันสิทธิและทรัพย์สินของบริษัทของเรา
  • ในกรณีที่จำเป็นต้องปกป้องชีวิตร่างกายหรือทรัพย์สินของ บริษัทของเรา ลูกค้า หรือบุคคลทั่วไปอื่น ๆ และเป็นการยากที่จะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้
  • ในกรณีที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการยกระดับสาธารณสุขและการส่งเสริมการพัฒนาสุขภาพของเด็กและเป็นการยากที่จะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้
  • ในกรณีที่หน่วยงานระดับชาติหรือหน่วยงานของรัฐในประเทศหรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ร่วมมือในการดำเนินกิจการตามที่กฎหมายกำหนดและได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ขัดขวางการปฏิบัติงานดังกล่าว เมื่อมีอันตรายอาจส่งผลต่อ
  • ในกรณีที่เปิดเผยและให้ข้อมูลในสภาพที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลผู้ใช้ด้วยข้อมูลทางสถิติได้
การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
  • บริษัทของเราจะเก็บรักษาความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลและจัดการข้อมูลนี้อย่างปลอดภัย
  • บริษัทของเราจะใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การทำลาย การปลอมแปลง และการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล
  • บริษัทของเราจะควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องเหมาะสมผ่านการปรับปรุงระบบการจัดการและการฝึกอบรมของพนักงาน และใช้มาตรการป้องกันไม่ให้ข้อมูลสูญหาย ถูกทำลาย ถูกปลอมแปลง และรั่วไหล
การร้องขอให้แจ้ง, เปิดเผย, แก้ไข, ระงับใช้ และอื่นๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่บริษัทของเราได้รับคำขอเกี่ยวกับการเปิดเผย การแก้ไข การเพิ่ม การลบ การระงับหรือการยกเลิกการใช้งาน การระงับการให้ข้อมูลแก่บุคคลที่สาม และการแจ้งวัตถุประสงค์การใช้งานเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลจากตัวลูกค้าเอง เมื่อยืนยันได้ว่าผู้ยื่นคำขอเป็นตัวจริงแล้ว บริษัทของเราจะดำเนินการด้วยความสุจริตและรวดเร็วตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

อนึ่ง ในกรณีที่คำขอไม่เป็นไปตามข้อกำหนดในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากมีเหตุผลที่สามารถยอมรับการปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลอื่นๆ ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายและข้อบังคับอื่นๆ บริษัทของเราก็อาจไม่สามารถปฏิบัติตามคำขอได้

นอกจากนี้ ในการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลและอื่นๆ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องชำระค่าธรรมเนียมให้กับบริษัทของเรา แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตอนที่ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารเพื่อยืนยันตัวตนตามข้อกำหนดข้างต้น รวมถึงค่าบริการด้านการสื่อสารและค่าขนส่งที่ลูกค้าจะส่งมาถึงบริษัทของเรา จะถือเป็นความรับผิดชอบของลูกค้าเอง

การเปลี่ยนแปลงแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทของเราจะทบทวนสถานะการบังคับใช้เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตามที่เห็นสมควร และจะพยายามปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และเราอาจเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามความจำเป็น นโยบายความเป็นส่วนตัวที่มีการเปลี่ยนแปลงจะมีการประกาศเมื่อถึงคราวจำเป็นบนเว็บไซต์นี้

ติดต่อ

ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทเรา ส่งอีเมล์มาได้ที่ msato@koasha.co.th

ข้อกำหนด ณ วันที่ 20 กันยายน ปี 2020

I have read and agree to the Privacy Policy
Please Wait
NEWS Other News
Contact Us

Office
Tel: +66(0)2-171-7680

Chompoo
Mobile: +66(0)98-252-3582
Emai: sales@industria.co.th



News Categories
Feature
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงความสะดวกของเว็บไซต์
คุณสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายคุกกี้และการใช้งานเว็บไซต์ ต่อไป แสดงว่าคุณยินยอมให้ใช้คุกกี้