คุณชมพู่จบการศึกษาจากที่ใดและมีหน้าที่รับผิดชอบงานด้านใดบ้างในบริษัท industria (Thailand) ?
ปี 2558 ชมพู่จบปริญาตรีจากมหาวิทยาลัยราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจักรพงษภูวนารถและศึกษาต่อในระดับปริญาโทที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมค่ะ ซึ่งชมพู่ได้เข้าทำงานที่บริษัท industria (Thailand) ในปี 2560 และมีหน้าที่รับผิดชอบคือ ประสานงานกับลูกค้า แนะนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทให้กับลูกค้าทั้งทางโทรศัพท์และภายในโรงงานของลูกค้า ทดสอบผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า ตรวจสอบเครื่องจักร แก้ปัญหาหน้างานและทำเอกสารด้วยค่ะ
เครื่อง FILSTAR มักจะถูกใช้งานในโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์เป็นหลัก แต่ได้ยินมาว่าทางบริษัทมีแผนที่จะบุกเบิกฐานลูกค้าใหม่ ซึ่งมีอุตสาหกรรมด้านใดบ้างที่สามารถใช้งานเครื่อง FILSTAR ได้?
สำหรับ FILSTAR ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 85 ของอุตสาหกรรมการผลิตทั้งหมด นอกจากนี้ยังถูกใช้ในบริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรกลอีกด้วยค่ะ
แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์เกิดการหยุดชะงักในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้นบริษัทของเราจึงพยายามขยายช่องทางการขายไปยังอุตสาหกรรมต่างๆ มากขึ้น เช่น อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป ยาและเครื่องมือทางการแพทย์ เครื่องมือและอุปกรณ์การเกษตรและโรงไฟฟ้า เป็นต้นค่ะ
นอกจากนี้ในประเทศญี่ปุ่นก็มีการใช้งานเครื่องกรอง FILSTAR ในโรงงานแปรรูปอาหารอยู่แล้ว จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้บริษัท industria (Thailand) สนใจที่จะบุกเบิกฐานลูกค้าด้านอุตสาหกรรมอาหารในประเทศไทยด้วยเช่นกันค่ะ ซึ่งในประเทศไทย เราจะเน้นไปที่โรงงานอาหารแปรรูปในแถบจังหวัดสมุทรสาครและสมุทรสงครามค่ะ
สำหรับโรงงานแปรรูปอาหาร เครื่องกรองแบบมีไส้กรองจากบริษัทต่างๆ จะถูกใช้เพื่อกรองเศษอาหารในบ่อบำบัดน้ำเสีย
ซึ่งเครื่องกรอง FILSTAR ทุกรุ่นทำจากวัสดุสแตนเลสเกรด 304 (SUS 304) ที่ไม่ก่อให้เกิดสนิมและทนต่อการกัดกร่อนต่างๆได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่า FILSTAR จะสามารถใช้กับอาหารได้อย่างปลอดภัยและถูกสุขลักษณะอนามัยอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ด้วยโครงสร้างของเครื่องกรอง FILSTAR ที่ไม่มีไส้กรอง เศษอาหารเหล่านี้ จึงไม่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของ FILSTAR และไม่จำเป็นต้องเพิ่มความถี่ในการบำรุงรักษาอีกด้วยค่ะ
นอกจากอุตสาหกรรมด้านอาหารแปรรูปแล้ว มีอุตสาหกรรมด้านอื่นที่คิดว่าสามารถใช้งานเครื่อง FILSTAR ได้อีกไหม?
ปัจจุบันเราสนใจโรงผลิตไฟฟ้าพลังน้ำเป็นอย่างมากค่ะ ซึ่งในประเทศไทยก็มีโรงไฟฟ้าประมาณ 78 แห่ง
และเนื่องจากกระบวนการผลิตไฟฟ้าเหมาะกับการใช้งานเครื่องกรอง FILSTAR เป็นอย่างมากเลยค่ะ เพราะจะมีการดูดน้ำจากแหล่งน้ำต่าง ๆ ที่มีเศษหิน ดิน ทราย ปะปนอยู่ หากมีการใช้เครื่องกรอง FILSTAR เพื่อกรองเศษเหล่านั้นออกก่อนที่จะเอาน้ำไปผลิตเป็นไฟฟ้าก็จะช่วยให้กระบวนการผลิตเกิดความสะดวกมากยิ่งขึ้น
ซึ่งเครื่องกรองชนิดอื่นๆ จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวไส้กรองบ่อยครั้ง แต่เครื่อง FILSTAR ไม่มีไส้กรอง จึงทำให้ใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องของระยะเวลาในการเปลี่ยนไส้กรองเลยค่ะ
สำหรับ FILSTAR ถูกนำมาใช้ในหลายประเทศและยังไม่มีสาขาในประเทศใดที่สามารถบุกเบิกฐานลูกค้าที่เป็นโรงงานผลิตไฟฟ้าได้ หากบริษัท industria (Thailand) สามารถบุกเบิกลูกค้าในกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าได้ จะถือเป็นก้าวสำคัญในการเติบโตของบริษัทได้เลยค่ะ
สุดท้ายนี้ คุณชมพู่อยากฝากอะไรถึงผู้ใช้งานเครื่อง FILSTAR ?
ในฐานะของเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย เราเข้าใจดีว่าในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 นี้ ค่อนข้างมีความยากลำบากในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเดินทางและการบุกเบิกฐานลูกค้าใหม่
แต่เราก็หวังว่าโปรเจค EEC ที่ทางรัฐบาลกำลังผลักดันอยู่นี้จะช่วยให้กลุ่มธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจรถยนต์กลับมาฟื้นตัวได้ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ผลิตเหล่านั้นเริ่มกลับมาปรับปรุงการผลิต รวมถึงขยายไลน์การผลิตมากขึ้นและสิ่งเหล่านั้นเองจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในไลน์การผลิตกลับมาได้รับความสนใจมากขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ เนื่องจากบริษัทต่างๆ ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจในด้านการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม เครื่อง FILSTAR ซึ่งเป็นเครื่องที่รองรับมาตการด้านสิ่งแวดล้อมก็น่าจะได้รับความสนใจมากขึ้นไปด้วยค่ะ
หากท่านใดยังไม่ได้ทดลองใช้เครื่อง FILSTAR ชมพู่ก็อยากให้หาโอกาสลองใช้งานดูค่ะ เพราะเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นๆแล้ว ถือว่ามีความคุ้มค่าด้านต้นทุนและประสิทธิภาพมาก หากลูกค้าได้ลองใช้งานจะไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไส้กรองหลายครั้งและสามารถใช้งานได้ยาวนาน 10 – 20 ปีเลยค่ะ หากท่านใดสนใจเครื่อง FILSTAR สามารถติดต่อมาที่บริษัทของเราได้เลยนะคะ