Array ( [0] => stdClass Object ( [id] => 1 [company_id] => 155 [image_url] => company-155-company-155-20210329_ITCエネクス_Slider_C.jpg [image_link] => [image_popup] => 0 [slide_id] => 1 [slide_list_name] => all ) [1] => stdClass Object ( [id] => 1 [company_id] => 155 [image_url] => company-155-company-155-Slider2.jpg [image_link] => [image_popup] => 0 [slide_id] => 1 [slide_list_name] => all ) )
  • HOME
  • >
  • NEWS
  • >
  • รูปแบบ PPA ของระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ | ที่กำลังได้รับความสนใจในประเทศไทย และข้อแตกต่างระหว่างการติดตั้งรูปแบบ PPA และแบบเช่า ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายขั้นต้น

รูปแบบ PPA ของระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ | ที่กำลังได้รับความสนใจในประเทศไทย และข้อแตกต่างระหว่างการติดตั้งรูปแบบ PPA และแบบเช่า ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายขั้นต้น

28/02/2023
ITC ENEX (Thailand) Co., Ltd.


รูปแบบ PPA (Power Purchase Agreement) ที่สามารถนำระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้งานได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายขั้นต้นและค่าบำรุงรักษา กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในประเทศไทย อีกทั้ง เนื่องจากแนวโน้มในการดำเนินนโยบายลดการปล่อยคาร์บอนและค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น ทำให้ PPA ยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นในประเทศไทย ในบทความนี้ขออธิบายเกี่ยวกับ PPA เช่น การติดตั้ง และระบบลักษณะนี้เหมาะกับบริษัทประเภทใด


ไม่มีค่าใช้จ่ายขั้นเริ่มต้นและไม่มีค่าดำเนินการ
รูปแบบ PPA คืออะไร?  

PPA (Power Purchasing Agreement) เป็นรูปแบบสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า โดยบริษัทที่ดำเนินการรูปแบบ PPA จะติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่ต่างๆ เช่น หลังคา หรือบนอาคาร และลูกค้าจะซื้อไฟฟ้าจากบริษัทที่ดำเนินการระบบ PPA เหล่านั้น


คุณสมบัติเด่นของรูปแบบ PPA
ไม่มีค่าใช้จ่ายขั้นต้น
เราเป็นผู้ลงทุนติดตั้งอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโรงงานของลูกค้า ในรูปแบบ PPA ส่งผลให้ลูกค้าสามารถใช้งานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนขั้นต้น

ไม่มี Running Cost
ในระหว่างสัญญา บริษัทผู้ดำเนินการ PPA จะบำรุงรักษา และจัดการอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าให้กับลูกค้า และเนื่องจากรวมค่าประกันภัยพิบัติแล้ว จึงไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ระหว่างสัญญา

จ่ายตามไฟฟ้าที่ใช้งานจริง
ค่าไฟฟ้าในส่วนที่ใช้งานจะจ่ายให้กับบริษัทผู้ดำเนินการ PPA ตามปริมาณการใช้ไฟฟ้า ผู้ใช้งานสามารถใช้ไฟฟ้าได้ในราคาต่อหน่วยคงที่สำหรับระยะเวลาของสัญญา หรือในอัตราที่มีส่วนลดราคา นอกจากนี้ยังสามารถลดค่าไฟฟ้าและความเสี่ยงจากค่าไฟที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย


ความแตกต่างระหว่างการเช่าพลังงานไฟฟ้ากับรูปแบบ PPA

รูปแบบสัญญาการซื้อขายไฟฟ้ามีข้อดีหลายประการที่เหมือนกับการเช่าระบบไฟฟ้า เช่น ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนขั้นต้น สำหรับจุดที่แตกต่างกับการเช่าคือ ระบบการเรียกเก็บเงิน ที่ผู้ใช้งานจะจ่ายเฉพาะค่าไฟตามปริมาณที่ใช้จริง

การเช่าระบบพลังงานแสงอาทิตย์ | ค่าเช่ารายเดือนจะคงที่ โดยไม่ต้องคำนึงถึงการใช้ไฟฟ้า
PPA | จ่ายตามปริมาณไฟฟ้าที่ใช้งานจริง


■ควรเลือกรูปแบบใดดี ?
แต่ละบริการมีลักษณะเฉพาะของตัวเองและจุดที่ลูกค้าให้ความสำคัญก็แตกต่างกัน ดังนั้นเราจึงจัดทำข้อเสนอตามความเหมาะสมของลูกค้าแต่ละราย


ข้อดีของการใช้บริการกับ ITC ENEX

ราคาค่าไฟต่อหน่วยคงที่
รูปแบบ PPA ของ ITC ENEX มีอัตราค่าไฟ (ราคาต่อหน่วย) ที่กำหนดไว้ ณ เวลาที่ทำสัญญา ดังนั้น ค่าไฟจะมีราคาเท่ากันตลอดอายุสัญญา และเนื่องจากราคาต่อหน่วยไฟฟ้า จะไม่เปลี่ยนแปลงตามอัตราค่าไฟฟ้าของบริษัทที่ให้บริการไฟฟ้า จึงไม่มีความเสี่ยงด้านความผันผวนของราคาที่มาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือต้นทุนทรัพยากรที่สูงขึ้น

ระยะเวลาสัญญาสั้น ขั้นต่ำ 7 ปี
โดยทั่วไปสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจะมีอายุสัญญาตั้งแต่ 20 - 25 ปี แต่สัญญาซื้อขายไฟฟ้าของเราสามารถดำเนินการได้ในระยะเวลาที่ค่อนข้างสั้น (ประมาณ 10 ปีขึ้นไป) สำหรับผู้มีความกังวลเกี่ยวกับระยะสัญญาที่ยาวนาน และผู้ที่ต้องการลดจำนวนค่าไฟ เราขอแนะนำให้ติดตั้งรูปแบบ PPA

สามารถใช้กับระบบขนาดเล็กได้
บริษัทของเรายังสามารถรองรับระบบขนาดเล็กได้ตั้งแต่ขนาด 200 กิโลวัตต์ (แผงโซล่าเซลล์ประมาณ 400 แผง) หากบริษัทอื่นๆ ปฏิเสธการให้บริการกับคุณด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น ปริมาณการใช้พลังงานน้อยเกินไป หรือพื้นที่จัดวางไม่เพียงพอ สามารถติดต่อมาที่บริษัทเราได้ทันที


แบบจำลองผลประโยชน์ที่จะได้รับ จากค่าไฟฟ้าที่ลดลง

หากคุณสามารถให้ข้อมูลการใช้พลังงานไฟฟ้าในปัจจุบันกับเรา (จำนวน 12 เดือนล่าสุด) เราสามารถสร้างแบบจำลองการติดตั้งให้คุณได้ หากสนใจสามารถติดต่อมาที่บริษัทของราได้ทันที



หากคุณกำลังพิจารณาใช้งานระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (แบบค่าเช่าอัตราคงที่ และรูปแบบPPA) สามารถติดต่อเราได้โดยใช้แบบฟอร์มด้านล่างนี้



แบบฟอร์มสอบถามข้อมูล

โปรดติดต่อเราโดยกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง

สามารถติดต่อได้ทางเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล

KOA-SHA (THAILAND) ผู้ให้บริการเว็บไซต์ (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "บริษัทของเรา") จะให้บริการต่างๆ (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "บริการนี้") ตามนโยบายความเป็นส่วนตัว (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "นโยบายนี้") ดังต่อไปนี้

คำนิยามของข้อมูลส่วนบุคคล

ในนโยบายนี้ คำว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวบุคคลที่ยังดำรงชีวิตอยู่ ชี้ถึงการที่สามารถแยกแยะตัวบุคคลได้จากชื่อและนามสกุล, วันเดือนปีเกิด และการให้รายละเอียดอื่นๆ รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง (รวมถึงข้อมูลที่สามารถเทียบเคียงกับข้อมูลอื่นๆ ได้ง่าย ซึ่งจะช่วยให้สามารถระบุตัวบุคคลได้)

การรับข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทของเราจะรับข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีความยุติธรรม

การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทของเราจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจ ภายในขอบเขตวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ ดังต่อไปนี้

  • เพื่อให้ข้อมูลที่เหมาะสมที่สุดแก่ผู้ใช้แต่ละรายในบริการนี้
  • เพื่อเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงคุณภาพของบริการนี้โดยการวิเคราะห์ทางสถิติ
  • เพื่อรองรับในการติดต่อสอบถามที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้
  • เพื่อเตรียมข้อมูลจากการดาวน์โหลดแคตตาล็อกให้กับบริษัทสมาชิกแต่ละแห่ง และดำเนินการทำแบบสอบถามที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้
  • เพื่อที่จะส่งคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และเคมเปญที่ดำเนินการโดยบริษัทของเรา
  • อื่นๆ วัตถุประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้กับวัตถุประสงค์การใช้งานที่ระบุในข้างต้น
เกี่ยวกับ Cookie

บริษัทของเราใช้ cookie ในเว็บไซต์ของบริการนี้ อีกทั้งในระบบการโฆษณาก็มีบางส่วนที่ใช้ cookie ด้วย Cookie เป็นเทคโนโลยีที่ใช้บันทึกประวัติการใช้งานที่ส่งและรับระหว่างเบราเซอร์กับเซิร์ฟเวอร์ลงเป็นไฟล์ในคอมพิวเตอร์เทอร์มินอลของผู้ใช้ หากคุณไม่ต้องการให้บริษัทของเราใช้ cookie ก็สามารถตั้งค่าปฏิเสธการใช้ cookie ในเบราเซอร์ของคุณเองได้ อย่างไรก็ตามในกรณีที่คุณปฏิเสธ cookie อาจเกิดผลกระทบตอนที่คุณเข้าใช้บริการนี้ในเว็บไซต์

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่สาม

บริษัทของเราจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่สามโดยไม่ได้รับความยินยอมจากตัวบุคคลก่อนล่วงหน้า เว้นในกรณีที่มีการบัญญัติตามกฎหมาย

อนึ่ง บริษัทของเราอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและเปิดเผยแก่บุคคลที่สามในกรณีดังต่อไปนี้

  • ในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้เอง
  • ในกรณีที่ได้รับการเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลจากคำพิพากษา, คำตัดสิน และคำสั่งตามกฎหมายของศาลและองค์กรบริหารต่างๆ เป็นต้น
  • ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้มาตรการการจัดการเพื่อป้องกันการรุกรานและป้องกันสิทธิและทรัพย์สินของบริษัทของเรา
  • ในกรณีที่จำเป็นต้องปกป้องชีวิตร่างกายหรือทรัพย์สินของ บริษัทของเรา ลูกค้า หรือบุคคลทั่วไปอื่น ๆ และเป็นการยากที่จะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้
  • ในกรณีที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการยกระดับสาธารณสุขและการส่งเสริมการพัฒนาสุขภาพของเด็กและเป็นการยากที่จะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้
  • ในกรณีที่หน่วยงานระดับชาติหรือหน่วยงานของรัฐในประเทศหรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ร่วมมือในการดำเนินกิจการตามที่กฎหมายกำหนดและได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ขัดขวางการปฏิบัติงานดังกล่าว เมื่อมีอันตรายอาจส่งผลต่อ
  • ในกรณีที่เปิดเผยและให้ข้อมูลในสภาพที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลผู้ใช้ด้วยข้อมูลทางสถิติได้
การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
  • บริษัทของเราจะเก็บรักษาความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลและจัดการข้อมูลนี้อย่างปลอดภัย
  • บริษัทของเราจะใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การทำลาย การปลอมแปลง และการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล
  • บริษัทของเราจะควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องเหมาะสมผ่านการปรับปรุงระบบการจัดการและการฝึกอบรมของพนักงาน และใช้มาตรการป้องกันไม่ให้ข้อมูลสูญหาย ถูกทำลาย ถูกปลอมแปลง และรั่วไหล
การร้องขอให้แจ้ง, เปิดเผย, แก้ไข, ระงับใช้ และอื่นๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่บริษัทของเราได้รับคำขอเกี่ยวกับการเปิดเผย การแก้ไข การเพิ่ม การลบ การระงับหรือการยกเลิกการใช้งาน การระงับการให้ข้อมูลแก่บุคคลที่สาม และการแจ้งวัตถุประสงค์การใช้งานเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลจากตัวลูกค้าเอง เมื่อยืนยันได้ว่าผู้ยื่นคำขอเป็นตัวจริงแล้ว บริษัทของเราจะดำเนินการด้วยความสุจริตและรวดเร็วตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

อนึ่ง ในกรณีที่คำขอไม่เป็นไปตามข้อกำหนดในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากมีเหตุผลที่สามารถยอมรับการปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลอื่นๆ ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายและข้อบังคับอื่นๆ บริษัทของเราก็อาจไม่สามารถปฏิบัติตามคำขอได้

นอกจากนี้ ในการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลและอื่นๆ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องชำระค่าธรรมเนียมให้กับบริษัทของเรา แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตอนที่ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารเพื่อยืนยันตัวตนตามข้อกำหนดข้างต้น รวมถึงค่าบริการด้านการสื่อสารและค่าขนส่งที่ลูกค้าจะส่งมาถึงบริษัทของเรา จะถือเป็นความรับผิดชอบของลูกค้าเอง

การเปลี่ยนแปลงแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทของเราจะทบทวนสถานะการบังคับใช้เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตามที่เห็นสมควร และจะพยายามปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และเราอาจเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามความจำเป็น นโยบายความเป็นส่วนตัวที่มีการเปลี่ยนแปลงจะมีการประกาศเมื่อถึงคราวจำเป็นบนเว็บไซต์นี้

ติดต่อ

ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทเรา ส่งอีเมล์มาได้ที่ msato@koasha.co.th

ข้อกำหนด ณ วันที่ 20 กันยายน ปี 2020

I have read and agree to the Privacy Policy
Please Wait
NEWS Other News
Contact Us
News
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงความสะดวกของเว็บไซต์
คุณสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายคุกกี้และการใช้งานเว็บไซต์ ต่อไป แสดงว่าคุณยินยอมให้ใช้คุกกี้