PRESIDENT
YASUYUKI TANI

หลังเข้ารับตำแหน่งประธานบริษัทในปี 2015 ได้พยายามทดลองในหลายสิ่งหลายอย่าง อาทิ บริการขนส่งแบบเที่ยวบินรวม ฯลฯ จนทำให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ในปี 2017 ได้ผลักดันยอดการจัดส่งสินค้าทางอากาศของบริษัทขึ้นสู่จุดสูงสุดจากข้อมูล CASS (ระบบการคำนวณค่าขนส่งสินค้า) นอกจากนี้ยอดการจัดส่งสินค้าทางบกและทางเรือยังอยู่ในระดับต้นๆ อีกด้วย

คุณทานิ ประธานบริษัทกล่าวว่า "นอกจากการให้บริการที่พิถีพิถันและตรงตามความต้องการของลูกค้าตามแบบฉบับของบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นแล้ว การยกระดับระบบการติดต่อในกรณีฉุกเฉินก็ถือเป็นจุดขายที่สำคัญที่สุดของบริษัทเราเช่นกัน สิ่งนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้ผลประกอบการของเรามาถึงจุดนี้ได้" ทั้งนี้เบื้องหลังความสำเร็จดังกล่าวกลับก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นซึ่งนั่นก็คือ "การรักษาพนักงานให้คงอยู่ไว้"

พนักงานส่วนใหญ่ปรารถนาที่จะทำงานที่บริษัทที่สะอาดสวยงามและเลิกงานตรงเวลา แต่การทำงานในบริษัทโลจิสติกส์นั้นมีความแตกต่างเพราะเราจะให้การสนับสนุนลูกค้าให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่นแม้เป็นช่วงเวลาหลังเลิกงานก็ตาม นอกจากนี้ยังเป็นอุตสาหกรรมที่ขาดแคลนแรงงานทำให้ต้องคิดอยู่เสมอว่าเราจะรักษาพนักงานไว้ได้อย่างไร"
หลังเข้ารับตำแหน่งประธานบริษัทในปี 2015 คุณทานิก็เริ่มดำเนินกิจกรรมเพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงานให้กับพนักงานในทันที โลจิสติกส์ถือเป็นรากฐานที่สำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศไทยที่กำลังมีการพัฒนาในด้านต่างๆ โดยเริ่มจากด้านอุตสาหกรรมการผลิต คุณทานิกล่าวว่า “โลจิสติกส์เปรียบเสมือนกับการไหลเวียนของโลหิตในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเราไม่สามารถหยุดการไหลเวียนของโลหิตได้จึงจำเป็นต้องปฏิบัติงานด้วยความตระหนักถึงภาระหน้าที่ที่สำคัญอยู่เสมอ ดังนั้น ก่อนอื่นเราต้องสร้างความเข้าใจให้พนักงานว่างานด้านโลจิสติกส์นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับสังคมและยกระดับความพึงพอใจในการทำงานก่อนเป็นอันดับแรก”

ถัดมา คือ เรื่องการฝึกอบรมและการปรับตำแหน่งของพนักงาน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปรับตำแหน่งนั้นทางผู้จัดการฝ่ายจะต้องวางแผนธุรกิจและโครงสร้างองค์กรของปีถัดไปล่วงหน้า รวมทั้งระบุรายชื่อของพนักงานที่จำเป็นต่อแผนการดังกล่าว พนักงานที่ได้รับการคัดเลือกจะต้องกำหนดเป้าหมายร่วมกันกับหัวหน้างาน รวมทั้งพยายามแสดงความสามารถเพื่อใช้ในการประเมินผลงานต่อไป นอกจากนี้จะต้องแจ้งเรื่องของการปรับตำแหน่งให้พนักงานได้รับทราบก่อนล่วงหน้าเพื่อสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานให้มากขึ้น นอกจากนี้เรากำลังพิจารณาเรื่องการมอบประกาศเกียรติคุณหรือรางวัล รวมทั้งการคัดเลือกพนักงานให้ไปประจำการยังต่างประเทศอีกด้วย
"การปรับปรุงผลการดำเนินธุรกิจถือเป็นเรื่องสำคัญของบริษัทก็จริง ทว่าหากมุ่งแต่สิ่งนั้นเพียงอย่างเดียวแล้วบางครั้งพนักงานอาจจะไม่ร่วมมือด้วยก็เป็นได้ ดังนั้น จึงควรยกระดับความพึงพอใจในการทำงานของพนักงานตลอดจนช่วยเหลือสังคมควบคู่ไปด้วย ซึ่งนั่นจะทำให้เราเป็นบริษัทอันเป็นที่รักของผู้คนได้ตลอดไป" หากความพยายามต่างๆ เหล่านี้ของคุณทานิ ประธานบริษัทสัมฤทธิ์ผลเมื่อไหร่ บริษัท KWE จะต้องเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของประเทศไทยอย่างแน่นอน

เราทำคุณประโยชน์ให้กับสังคมผ่านกิจกรรมปลูกป่าและการบริจาค