บริษัท MITSUI GRINDING TECHNOLOGY (THAILAND) ที่แต่เดิมมุ่งเน้นการผลิตผลิตภัณฑ์หินเจียรที่รองรับอุตสาหกรรมเครื่องจักรและ Automotive แต่ปัจจุบันได้เล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา จึงได้เริ่มมองหาแนวทางบุกเบิกไปที่อุตสาหกรรมใหม่ๆ ซึ่งล่าสุดได้ผลิตหินเจียรมีดเพื่อรองรับอุตสาหกรรมอาหารและครัวเรือน อุตสาหกรรม รีไซเคิล โรงตัดไม้ อุตสาหกรรมกระดาษ เป็นต้น โดยบทความนี้ได้รับเกียรติจากคุณสุทธิศักดิ์ โยทองยศ ตำแหน่ง Manager Sales Engineer และคุณนพนันท์ ธนบริบูรณ์พงศ์ ตำแหน่ง Sale Engineer จากบริษัท MITSUI GRINDING TECHNOLOGY (THAILAND) มาร่วมแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้ หินเจียรมีดที่บริษัทได้ผลิตขึ้นมานั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
หินเจียรมีดที่ถูกผลิตขึ้นตามรูปแบบการใช้งาน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในหลากหลายอุตสาหกรรม
1. หินเจียรมีดที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและครัวเรือน โดยจะใช้ลับมีดสำหรับแล่เนื้อสัตว์, ประกอบอาหาร เป็นต้น โดยหินเจียรชนิดนี้เป็นหินเจียรที่ทำมาจากแมกนีเซียมออกไซด์ ซึ่งสามารถใช้งานได้เป็นระยะเวลานานหลังจากการผลิตและลับใบมีดได้มากกว่าผลิตภัณฑ์รุ่นทั่วไป
▲ หินเจียรมีดที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและครัวเรือน
สำหรับวิธีการใช้งานนั้นจะนำหินเจียรมีดทั้ง 2 อัน มาประกบกันและนำมีดที่ต้องการลับคมไว้ตรงกลาง จากนั้นจึงทำการลับจนได้ความคมที่ต้องการ
2. หินเจียรมีดเรซินอยด์ สำหรับลับมีดที่ใช้ในอุตสาหกรรมรีไซเคิล โรงตัดไม้ อุตสาหกรรมกระดาษ เช่น มีดที่ใช้สำหรับตัดไม้ เป็นต้น สำหรับหินเจียรชนิดนี้จะมีอายุการใช้งาน 2 ปี ภายหลังจากการผลิต เนื่องจากกาวที่ผลิตเป็น เรซินจึงทำให้เกิดการเสื่อมสภาพได้
▲ หินเจียรมีดที่ใช้ในอุตสาหกรรมรีไซเคิล โรงตัดไม้ อุตสาหกรรมกระดาษ
สำหรับวิธีการใช้งานนั้นจะนำหินเจียรมีดเรซินอยด์เข้าไปในเครื่องจักรสำหรับลับมีดที่ได้ทำการตั้งค่าความคมไว้เรียบร้อยแล้ว โดยจะทำการลับคมไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ความคมตามที่ต้องการ
หินเจียรมีดที่ช่วยเพิ่มผลผลิตของการทำงานได้มากกว่าเดิมถึง 150% การันตีจากลูกค้าที่ใช้งานจริง
บริษัทได้ส่งผลิตภัณฑ์หินเจียรมีดเพื่อให้ลูกค้าทั้งในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและโรงงานตัดไม้ใช้งาน ซึ่งก็ได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า ไม่ว่าจะชื่นชมในเรื่องคุณภาพของหินเจียรที่ดีกว่าของบริษัทอื่นที่เคยใช้มาตลอดจนหินเจียรมีดนี้สามารถให้ผลผลิตของการทำงานได้มากกว่าเดิมซึ่งคิดเป็น 150% เมื่อเทียบกับของบริษัทอื่นที่เคยใช้งานมา ซึ่งจากผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจนี้ ทำให้บริษัทมีความมั่นใจว่าจะสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นอุตสาหกรรมอาหารรายใหญ่ในประเทศไทยได้เพราะเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีจุดแข็งมากมายที่สามารถสู้กับคู่แข่งไม่ว่าจะเป็นในส่วนของบริษัทนำเข้าหรือบริษัทท้องถิ่นก็ตาม
ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าด้วยสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยแบบ Made to Order พร้อมการตอบสนองที่รวดเร็วทันใจ คือ จุดแข็งที่สำคัญของผลิตภัณฑ์
ถึงแม้ว่าการแข่งขันในธุรกิจหินเจียรจะมีมากเพียงใดแต่บริษัทก็มั่นใจว่าจะสามารถทำให้ผลิตภัณฑ์อยู่ในลำดับต้นๆ ที่ลูกค้าจะเลือกใช้บริการอย่างแน่นอน ซึ่งในส่วนของหินเจียรมีดแม้จะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่แต่ด้วยจุดแข็งของผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเคยได้สร้างมาตรฐานเอาไว้ก็ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า โดยจุดแข็งที่ว่ามีดังต่อไปนี้
คุณภาพของสินค้า เนื่องจากธุรกิจของบริษัทเป็นแบบ Know How ที่ถูกถ่ายทอดมาจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วยวัตถุดิบที่ถูกนำเข้าจากญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน ลูกค้าจึงมั่นใจในเรื่องของคุณภาพสินค้าที่มีความสม่ำเสมอและคงที่ได้
Made to Order บริษัทสามารถผลิตชิ้นงานตามความต้องการของลูกค้าไม่ว่าจะต้องการคุณภาพหรือดีไซน์แบบไหน เพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบการทำงาน ซึ่งบริษัทสามารถตอบโจทย์ในส่วนนี้ได้ทั้งหมด
ระยะเวลาในการผลิต เนื่องจากบริษัทมีการผลิตที่ประเทศไทยทำให้มีระยะเวลาที่รวดเร็วกว่าการนำเข้าจากต่างประเทศ จึงทำให้ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลารอการขนส่งและสามารถดำเนินการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง
ราคา หากเปรียบเทียบกับคุณภาพแล้วถือว่าเกิดความคุ้มค่าอย่างแน่นอน
บริการหลังการขาย บริษัทมีทีม Technical Service Engineer ที่คอยให้บริการลูกค้าอยู่เสมอ หากพบเจอปัญหาใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน บริษัทสามารถเข้าไปดูแลและแก้ไขให้ได้อย่างรวดเร็ว
ความน่าเชื่อถือ บริษัทมีประสบการณ์ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและไทยมาเป็นระยะเวลานาน ในส่วนนี้จึงทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในตัวสินค้าและบริการของบริษัทได้
ซึ่งหากลูกค้าท่านใดสนใจผลิตภัณฑ์หินเจียรมีด บริษัทมีบริการทดลองใช้งานฟรีและข้อเสนอพิเศษมอบให้กับลูกค้า สามารถติดต่อมาที่บริษัทได้ตลอดวันและเวลาทำการ
พร้อมให้บริการลูกค้าอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเกิดปัญหาใดๆ พิสูจน์ให้เห็นแล้วตลอด 2 ปีที่ผ่านมาภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19
หากย้อนกลับไปในช่วงแรกที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 บริษัทยอมรับว่าปรับตัวได้ยากมากแต่ก็ได้พิสูจน์ให้ลูกค้าเห็นแล้วตลอด 2 ปีที่เกิดสถานการณ์ดังกล่าวด้วยการให้ความสำคัญกับลูกค้ามาเป็นอันดับแรก ตราบใดที่ธุรกิจของลูกค้ายังสามารถดำเนินการได้ บริษัทก็พร้อมที่จะให้บริการและช่วยเหลืออย่างเต็มที่อยู่เสมอ ดังนั้น แม้สถานการณ์จะยังไม่คลี่คลายก็ขอให้ลูกค้ามั่นใจว่า บริษัท MITSUI GRINDING TECHNOLOGY (THAILAND) มีสต็อกสินค้าที่เพียงพอต่อความต้องการและทรัพยากรบุคคลที่พร้อมให้บริการลูกค้าและรับฟังความต้อการและคำร้องขอจากลูกค้าอยู่เสมอ
“ขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจในบริษัทเราและสุดท้ายถ้านึกถึงหินเจียรก็อยากให้ลูกค้านึกถึง MGT ครับ” คุณนพนันท์ ธนบริบูรณ์พงศ์ ตำแหน่ง Sale Engineer กล่าว
