Array ( [0] => stdClass Object ( [id] => 1 [company_id] => 55 [image_url] => company-55-company-55-01.jpg [image_link] => [image_popup] => 0 [slide_id] => 1 [slide_list_name] => all ) [1] => stdClass Object ( [id] => 1 [company_id] => 55 [image_url] => company-55-company-55-company-55-20200430_Slider_size_Web.jpg [image_link] => [image_popup] => 0 [slide_id] => 1 [slide_list_name] => all ) )
  • HOME
  • >
  • NEWS
  • >
  • 【ตัวอย่างการใช้งาน】 การปรับปรุงแก้ไขของสถานประกอบการผลิตโดยการติดตั้ง 'LINE QC SPECIALIST' เพื่อป้องกันไม่ให้มีงานเสียเกิดขึ้นในกระบวนการผลิต

【ตัวอย่างการใช้งาน】 การปรับปรุงแก้ไขของสถานประกอบการผลิตโดยการติดตั้ง 'LINE QC SPECIALIST' เพื่อป้องกันไม่ให้มีงานเสียเกิดขึ้นในกระบวนการผลิต

29/03/2022
Nobuhiro Oishi
Managing Director

ที่ผ่านมาเราได้อธิบายเกี่ยวกับ "LINE QC SPECIALIST ซึ่งเป็นระบบการตรวจสอบและควบคุมเพื่อป้องกันไม่ให้มีการผลิตงานเสียขึ้นในกระบวนการ" โดยระบบนี้จะใช้ซอฟต์แวร์ในการตรวจสอบและควบคุมขั้นตอนการทำงานรวมถึงเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อให้สามารถทำการผลิตได้ตามมาตรฐานของชิ้นงาน (ภายในค่ามาตรฐานที่ใช้ผลิตจริง) และปลอดภัยตามข้อกำหนดการผลิตภายในบริษัท ครั้งนี้จึงขอแนะนำตัวอย่างการใช้งาน LINE QC SPECIALIST ที่มีการนำข้อมูลที่ได้รับมาทำการวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงแก้ไขในสถานประกอบการผลิตโดยแสดงให้เห็นเป็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

① หากทำการคัดแยกชิ้นงาน 100% ในจุดที่คาดว่าจะมีงานเสียเกิดขึ้นในกระบวนการผลิตแล้วจะทำให้ความสามารถของกระบวนการผลิตสูงขึ้นอย่างไม่คาดคิด ในกรณีที่มีงานเสียถูกปล่อยออกไป อาจมีความเป็นไปได้สูงที่สาเหตุจะมาจากการปะปนของชิ้นงานที่ถูก "วางไว้ชั่วคราว" หรือชิ้นงาน Setup ที่ใช้ในการปรับตั้งเครื่องจักรมากกว่างานที่ผลิตตามปกติ ด้วยเหตุนี้ การแก้ไขจึงไม่ใช่การคัดแยกชิ้นงาน 100% แต่เป็นการเน้นเรื่องการจัดการชิ้นงาน Setup ในตอนเริ่มการผลิตจริงเสียมากกว่า

② หลังจากที่ใช้ LINE QC SPECIALIST มาทำการวิเคราะห์การ Setup เครื่องจักรแล้วพบว่า แม้จะเป็นเครื่องจักรเดียวกันก็ตามแต่ความสามารถของกระบวนการผลิตมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญขึ้นอยู่กับพนักงานผู้ทำการ Setup และไม่เพียงแค่การ Setup เท่านั้น ความแตกต่างด้านความสามารถของกระบวนการผลิตยังขึ้นอยู่กับความถี่ในการปรับตั้ง ฯลฯ อีกด้วย เราสามารถใช้ดัชนีดังกล่าวนี้ของ LINE QC SPECIALIST ในการแสดงความแม่นยำของเครื่องจักรเดิมและความตั้งใจทำงานของพนักงานแต่ละคน ได้ (สามารถนำมาใช้ในการประเมินผลงานของพนักงานได้อีกด้วย)

③ มีความเป็นไปได้ที่ความแม่นยำจะเพิ่มมากขึ้นหากได้รับการแก้ไขให้ถูกต้องในการทำงานของเครื่องจักรซึ่งรวมถึง Holder, Insert ฯลฯ ที่ใช้งานอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ LINE QC SPECIALIST จะช่วยให้ท่านได้รับข้อมูลที่ใช้ในการประเมินนี้ได้

④ เนื่องจากไลน์การผลิตมีความสามารถของกระบวนการที่แตกต่างกันทำให้ความแม่นยำด้านการตรวจวัดในปัจจุบันถูกกำหนดโดยความสามารถของแต่ละกระบวนการ เป็นเหตุให้หลายบริษัทต้องทำการตรวจวัดอย่างสม่ำเสมอ จากการใช้ LINE QC SPECIALIST ในการลดความถี่ของการตรวจวัดที่ไม่จำเป็นทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้มากขึ้นได้

การเปลี่ยนแปลงความถี่ในแต่ละตำแหน่งที่มีการตรวจวัดนั้นอาจก่อให้เกิดความกังวลว่าพนักงานจะลืมทำการตรวจวัดได้ ทั้งนี้เนื่องจาก LINE QC SPECALIST เป็นระบบที่ใช้ในการควบคุมความถี่ในการตรวจวัด ดังนั้น แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงความถี่ในการตรวจวัดหรือพนักงานลืมปฏิบัติงานตามความถี่ดังกล่าวแล้ว ระบบจะทำการแจ้งเตือนให้ทราบในทันที เนื่องจากระบบจะทำการควบคุมการตรวจวัดตามที่กำหนดไว้จึงทำให้สามารถควบคุมความถี่ในการตรวจวัดที่จำเป็นต่อการรับประกันความสามารถของกระบวนการได้

ตัวอย่างการปรับปรุงแก้ไขโดยอาศัยผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับจาก LINE QC SPECIALIST

สามารถดาวน์โหลดข้อมูลในรูปแบบของไฟล์ PDF ได้ที่ LINE QC SPECIALIST

ความสามารถของกระบวนการจะเปลี่ยนแปลงไปตามผู้ทำการปรับตั้งเครื่องจักรผลิตและวิธีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดในช่วงระหว่างการผลิต เพื่อเป็นการปิดบังรายชื่อของพนักงานจึงขอเรียกว่า Mr.A แทน โดย Mr.A และ Mr.NOPPORN นั้นอยู่ในส่วนงานเดียวกันและเป็นผู้รับผิดชอบเครื่องจักรเดียวกันทั้งหมด 5 เครื่อง

กรณีที่ค่าความสามารถของกระบวนการ (CP/CPK) ของชิ้นงานไม่ถึง 1.0 แล้ว จะมีการตั้งค่าสีของเซลล์ที่ใช้แสดงข้อมูลการวิเคราะห์ของ LINE QC SPECIALIST ให้เป็นสีเหลืองเพื่อทำการแจ้งเตือน เครื่องจักรที่ Mr.A รับผิดชอบมีเซลล์ที่เป็นสีเหลืองทั้งหมด 5 ตำแหน่ง (รูปภาพที่ 1) ส่วนเครื่องจักรที่ Mr.NOPPORN รับผิดชอบมีเซลล์ที่เป็นสีเหลืองทั้งหมด 2 ตำแหน่ง (รูปภาพที่ 2) ซึ่งแปลว่าเครื่องจักรที่ได้รับการปรับตั้งโดย Mr.NOPPORN น้ันมีคุณภาพดีกว่าและแสดงออกมาให้เห็นเป็นข้อมูลได้อย่างชัดเจน

LINE QC SPECIALIST

▲รูปภาพที่ 1-A: กรณีของ Mr.A

LINE QC SPECIALIST

▲รูปภาพที่ 1-B: กรณีของ Mr.A

LINE QC SPECIALIST

▲รูปภาพที่ 2-A: กรณีของ Mr.NOPPORN

LINE QC SPECIALIST

▲รูปภาพที่ 2-B: กรณีของ Mr.NOPPORN

หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้แล้ว ระบบจะทำการประเมินเป็นข้อผิดพลาด ดังนั้น จึงทำให้สามารถควบคุมคุณภาพของชิ้นงานและประเมินผลงานของพนักงานได้ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน นอกจากนี้ยังสามารถให้ Mr.A ดูข้อมูลเพื่อร่วมกันหาวิธีว่าควรทำอย่างไรจึงจะดีขึ้นหรือควรทำอย่างไรจึงจะทำให้ความสามารถของกระบวนการเพิ่มมากขึ้นในรูปแบบของการฝึกอบรมได้อีกด้วย

LINE QC SPECIALIST

▲รูปภาพที่ 3: กรณีของ MACHINE NO.7

LINE QC SPECIALIST

▲รูปภาพที่ 4: กรณีของ MACHINE NO.25

รูปภาพ 2 รูปด้านบนนี้ (รูปภาพที่ 3,4) เป็นการสรุปความสามารถของกระบวนการในแต่ละเครื่องจักร โดยเครื่องจักรหมายเลข 7 มีสภาพที่แย่ที่สุดซึ่งมีถึง 6 ตำแหน่งที่มีค่า CP,CPK ไม่ถึง 1.0

ในขณะเดียวกันเครื่องจักรหมายเลข 25 มีเพียงแค่ 1 ตำแหน่งเท่านั้นภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน หากมีกำหนดลากเส้นเพื่อกำหนดเป็นมาตรฐานแล้ว จะทำให้ทราบถึงความสามารถของกระบวนการผลิตที่มีอยู่ในแต่ละบริษัทได้ อีกทั้งยังสามารถเปรียบเทียบความแตกต่างด้านความแม่นยำของเครื่องจักรในกรณีที่ใช้พนักงานเดียวกันผลิตชิ้นงานเดียวกันภายใต้เงื่อนไขเดียวกันได้อีกด้วย

นอกจากนี้จากการรับทราบตำแหน่งที่มีความสามารถของกระบวนการต่ำทำให้นำไปสู่การค้นหาสาเหตุได้ว่า "เป็นเพราะส่วนนี้ไม่ดีจึงทำให้ได้ข้อมูลในลักษณะนี้" อีกด้วย ทำให้ท่านสามารถเรียงลำดับวามสำคัญในการบำรุงรักษาเครื่องจักร, ตำแหน่งที่ควรซ่อมแซม, การใช้หรือไม่ใช้งานเครื่องจักร, การควบคุมจุดที่มีการเปลี่ยนแปลง ฯลฯ ได้

LINE QC SPECIALIST

▲รูปภาพที่ 5: สรุปผล

การสรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล
■หากทำการเก็บรักษาข้อมูลไว้เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อทำการสรุปผลและวิเคราะห์แล้วจะทำให้มองเห็นปัญหาได้ในหลากหลายด้าน โดยเราสามารถนำปัญหาเหล่านี้มาจัดเรียงลำดับความสำคัญเพื่อทำการปรับปรุงคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง
■กรณีที่มีบางอย่างเกิดขึ้น สามารถใช้ข้อมูลที่จัดเก็บมาเป็นเวลานาน (ไม่ใช่ข้อมูลล็อตเล็ก) ในการประเมินสภาพของเครื่องจักรและเครื่องมือที่ใช้งานได้
■จากการที่สามารถแบ่งแยกว่าเป็นปัญหาจากพนักงานหรือระบบการควบคุมทำให้การปรับปรุงแก้ไขมีความรวดเร็วเพิ่มมากขึ้น

LINE QC SPECIALIST นี้ถือเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพในฐานะที่เข้ามาช่วยป้องกันไม่ให้มีการผลิตงานเสียขึ้นในไลน์การผลิต ตลอดจนไม่สามารถผลิตได้ ผมเชื่อมั่นว่าระบบนี้จะให้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพจากการใช้ข้อมูลที่ได้สั่งสมมาเป็นเวลานานในการปรับปรุงคุณภาพได้แม้ว่าจะเสร็จสิ้นการทำงานไปแล้วก็ตาม โดยกลุ่มบริษัท NANO SEIMITSU "FORTUNE CROSS" มุ่งมั่นที่จะใช้ LINE QC SPECIALIST นี้ในการปรับปรุงความสามารถของกระบวนการผลิต ท่านสามารถติดต่อกับ FORTUNE CROSS เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับระบบนี้ได้ตลอดเวลา



หากท่านมีความสนใจใน "LINE QC SPECIALIST", การตรวจสอบ 100%, ระบบการตรวจสอบและคัดแยกชิ้นงาน, เครื่องคัดแยกขนาด, เครื่องคัดแยกชิ้นงานความเร็วสูงด้วยกล้อง CCD, เครื่องตรวจสอบสภาพภายนอกกึ่งอัตโนมัติ, เครื่องทดสอบ Eddy current test แบบไร้สัมผัสและปราศจากการทำลาย ฯลฯ ในประเทศไทยแล้ว กรุณาสอบถามได้ผ่านการกรอกแบบฟอร์มด้านล่างนี้



แบบฟอร์มสอบถามข้อมูล

โปรดติดต่อเราโดยกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง

สามารถติดต่อได้ทางเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล

KOA-SHA (THAILAND) ผู้ให้บริการเว็บไซต์ (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "บริษัทของเรา") จะให้บริการต่างๆ (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "บริการนี้") ตามนโยบายความเป็นส่วนตัว (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "นโยบายนี้") ดังต่อไปนี้

คำนิยามของข้อมูลส่วนบุคคล

ในนโยบายนี้ คำว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวบุคคลที่ยังดำรงชีวิตอยู่ ชี้ถึงการที่สามารถแยกแยะตัวบุคคลได้จากชื่อและนามสกุล, วันเดือนปีเกิด และการให้รายละเอียดอื่นๆ รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง (รวมถึงข้อมูลที่สามารถเทียบเคียงกับข้อมูลอื่นๆ ได้ง่าย ซึ่งจะช่วยให้สามารถระบุตัวบุคคลได้)

การรับข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทของเราจะรับข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีความยุติธรรม

การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทของเราจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจ ภายในขอบเขตวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ ดังต่อไปนี้

  • เพื่อให้ข้อมูลที่เหมาะสมที่สุดแก่ผู้ใช้แต่ละรายในบริการนี้
  • เพื่อเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงคุณภาพของบริการนี้โดยการวิเคราะห์ทางสถิติ
  • เพื่อรองรับในการติดต่อสอบถามที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้
  • เพื่อเตรียมข้อมูลจากการดาวน์โหลดแคตตาล็อกให้กับบริษัทสมาชิกแต่ละแห่ง และดำเนินการทำแบบสอบถามที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้
  • เพื่อที่จะส่งคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และเคมเปญที่ดำเนินการโดยบริษัทของเรา
  • อื่นๆ วัตถุประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้กับวัตถุประสงค์การใช้งานที่ระบุในข้างต้น
เกี่ยวกับ Cookie

บริษัทของเราใช้ cookie ในเว็บไซต์ของบริการนี้ อีกทั้งในระบบการโฆษณาก็มีบางส่วนที่ใช้ cookie ด้วย Cookie เป็นเทคโนโลยีที่ใช้บันทึกประวัติการใช้งานที่ส่งและรับระหว่างเบราเซอร์กับเซิร์ฟเวอร์ลงเป็นไฟล์ในคอมพิวเตอร์เทอร์มินอลของผู้ใช้ หากคุณไม่ต้องการให้บริษัทของเราใช้ cookie ก็สามารถตั้งค่าปฏิเสธการใช้ cookie ในเบราเซอร์ของคุณเองได้ อย่างไรก็ตามในกรณีที่คุณปฏิเสธ cookie อาจเกิดผลกระทบตอนที่คุณเข้าใช้บริการนี้ในเว็บไซต์

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่สาม

บริษัทของเราจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่สามโดยไม่ได้รับความยินยอมจากตัวบุคคลก่อนล่วงหน้า เว้นในกรณีที่มีการบัญญัติตามกฎหมาย

อนึ่ง บริษัทของเราอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและเปิดเผยแก่บุคคลที่สามในกรณีดังต่อไปนี้

  • ในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้เอง
  • ในกรณีที่ได้รับการเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลจากคำพิพากษา, คำตัดสิน และคำสั่งตามกฎหมายของศาลและองค์กรบริหารต่างๆ เป็นต้น
  • ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้มาตรการการจัดการเพื่อป้องกันการรุกรานและป้องกันสิทธิและทรัพย์สินของบริษัทของเรา
  • ในกรณีที่จำเป็นต้องปกป้องชีวิตร่างกายหรือทรัพย์สินของ บริษัทของเรา ลูกค้า หรือบุคคลทั่วไปอื่น ๆ และเป็นการยากที่จะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้
  • ในกรณีที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการยกระดับสาธารณสุขและการส่งเสริมการพัฒนาสุขภาพของเด็กและเป็นการยากที่จะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้
  • ในกรณีที่หน่วยงานระดับชาติหรือหน่วยงานของรัฐในประเทศหรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ร่วมมือในการดำเนินกิจการตามที่กฎหมายกำหนดและได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ขัดขวางการปฏิบัติงานดังกล่าว เมื่อมีอันตรายอาจส่งผลต่อ
  • ในกรณีที่เปิดเผยและให้ข้อมูลในสภาพที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลผู้ใช้ด้วยข้อมูลทางสถิติได้
การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
  • บริษัทของเราจะเก็บรักษาความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลและจัดการข้อมูลนี้อย่างปลอดภัย
  • บริษัทของเราจะใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การทำลาย การปลอมแปลง และการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล
  • บริษัทของเราจะควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องเหมาะสมผ่านการปรับปรุงระบบการจัดการและการฝึกอบรมของพนักงาน และใช้มาตรการป้องกันไม่ให้ข้อมูลสูญหาย ถูกทำลาย ถูกปลอมแปลง และรั่วไหล
การร้องขอให้แจ้ง, เปิดเผย, แก้ไข, ระงับใช้ และอื่นๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่บริษัทของเราได้รับคำขอเกี่ยวกับการเปิดเผย การแก้ไข การเพิ่ม การลบ การระงับหรือการยกเลิกการใช้งาน การระงับการให้ข้อมูลแก่บุคคลที่สาม และการแจ้งวัตถุประสงค์การใช้งานเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลจากตัวลูกค้าเอง เมื่อยืนยันได้ว่าผู้ยื่นคำขอเป็นตัวจริงแล้ว บริษัทของเราจะดำเนินการด้วยความสุจริตและรวดเร็วตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

อนึ่ง ในกรณีที่คำขอไม่เป็นไปตามข้อกำหนดในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากมีเหตุผลที่สามารถยอมรับการปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลอื่นๆ ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายและข้อบังคับอื่นๆ บริษัทของเราก็อาจไม่สามารถปฏิบัติตามคำขอได้

นอกจากนี้ ในการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลและอื่นๆ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องชำระค่าธรรมเนียมให้กับบริษัทของเรา แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตอนที่ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารเพื่อยืนยันตัวตนตามข้อกำหนดข้างต้น รวมถึงค่าบริการด้านการสื่อสารและค่าขนส่งที่ลูกค้าจะส่งมาถึงบริษัทของเรา จะถือเป็นความรับผิดชอบของลูกค้าเอง

การเปลี่ยนแปลงแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทของเราจะทบทวนสถานะการบังคับใช้เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตามที่เห็นสมควร และจะพยายามปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และเราอาจเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามความจำเป็น นโยบายความเป็นส่วนตัวที่มีการเปลี่ยนแปลงจะมีการประกาศเมื่อถึงคราวจำเป็นบนเว็บไซต์นี้

ติดต่อ

ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทเรา ส่งอีเมล์มาได้ที่ msato@koasha.co.th

ข้อกำหนด ณ วันที่ 20 กันยายน ปี 2020

I have read and agree to the Privacy Policy
Please Wait
NEWS Other News
Contact Us
News
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงความสะดวกของเว็บไซต์
คุณสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายคุกกี้และการใช้งานเว็บไซต์ ต่อไป แสดงว่าคุณยินยอมให้ใช้คุกกี้