Array ( [0] => stdClass Object ( [id] => 1 [company_id] => 55 [image_url] => company-55-company-55-01.jpg [image_link] => [image_popup] => 0 [slide_id] => 1 [slide_list_name] => all ) [1] => stdClass Object ( [id] => 1 [company_id] => 55 [image_url] => company-55-company-55-company-55-20200430_Slider_size_Web.jpg [image_link] => [image_popup] => 0 [slide_id] => 1 [slide_list_name] => all ) )
  • HOME
  • >
  • NEWS
  • >
  • ตัวอย่างการใช้งาน LINE QC SPECIALIST | ช่วยปรับปรุงคุณภาพของกระบวนการผลิตให้เป็นอัตโนมัติพร้อมกับขจัดข้อบกพร่องและทำให้ผู้ใช้งานมองเห็นปัญหาได้อย่างชัดเจน

ตัวอย่างการใช้งาน LINE QC SPECIALIST | ช่วยปรับปรุงคุณภาพของกระบวนการผลิตให้เป็นอัตโนมัติพร้อมกับขจัดข้อบกพร่องและทำให้ผู้ใช้งานมองเห็นปัญหาได้อย่างชัดเจน

15/05/2023
Samurai Asia Editorial Department

LINE QC SPECIALIST เป็นระบบควบคุมคุณภาพที่พัฒนาโดย Nano Seimitsu เพื่อป้องกันและตรวจจับชิ้นงานเสีย (NG) ในกระบวนการผลิตและสำหรับในบทความนี้ขอแนะนำตัวอย่างการใช้งานของบริษัท TOHOKU MANUFACTURING (Thailand) CO., LTD หรือ TMT ซึ่งได้ใช้งานระบบนี้และได้รับการปรับปรุงคุณภาพของการผลิตตลอดจนเปลี่ยนรูปแบบการบันทึกข้อมูลเป็นแบบไม่ใช้กระดาษ

ยากที่จะระบุสาเหตุของชิ้นงาน NG ผ่านการบันทึกด้วยลายมือ

การจัดการและรักษาคุณภาพไม่ให้เกิดชิ้นงานเสียในกระบวนการผลิตนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยการจัดการด้วยวิธีการเขียนในกระดาษด้วยลายมือนั้นต้องใช้เวลาและความยุ่งยากในการตรวจสอบหาสาเหตุของปัญหาซึ่งมีผู้ใช้งานจำนวนไม่น้อยกังวลกับสิ่งเหล่านี้และแน่นอนว่า บริษัท TMT ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในประเทศก็มีความกังวลเช่นกัน

<ปัญหาที่บริษัท TMT พบในการทำงาน>
・ต้องการลดเอกสารกระดาษที่เป็นแบบฟอร์มบันทึกการผลิต
・ความน่าเชื่อถือของบันทึกที่เขียนด้วยลายมือของแต่ละบุคคลมีความผันแปรและแตกต่างกันไป

ปัจจุบันบริษัท TMT มีเครื่องกลึง NC สำหรับตัดเฉือนชิ้นงานที่มีความแม่นยำทั้งหมด 50 เครื่อง ซึ่งประมาณ 60% ของกระบวนการควบคุมคุณภาพได้รับการจัดการโดย LQS ทั้งหมด 4 เครื่อง ซึ่ง LQS เป็นเครื่องมือสำหรับใช้ในการรวบรวมข้อมูลในการตรวจสอบแบบสุ่มตัวอย่างชิ้นงานและควบคุมแนวโน้มของการผลิต ตลอดจนวิเคราะห์คุณภาพในไลน์การผลิต


การควบคุมการผลิต ระบบอัตโนมัติ การแปรรูปชิ้นส่วน NANO Seimitsu

▲ ตัวอย่างการควบคุมด้วยการใช้ LQS ในไลน์การผลิต

ตรวจวัดและตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอย่างอัตโนมัติเพื่อเพิ่มความเร็วให้กับการวิเคราะห์ PDCA พร้อมปรับปรุงคุณภาพและขจัดข้อบกพร่องในกระบวนการผลิต

LQS ได้รับการพัฒนาจากแนวคิดในเรื่องการขจัดข้อบกพร่องภายในกระบวนการผลิต โดยสามารถป้องกันการหลุดรอดของชิ้นงานที่เป็น NG ในจำนวน 1 ชิ้นใน 1 ล้านชิ้น (0 PPM) ได้ นอกจากนี้ยังเป็นโซลูชันที่พัฒนาโดยบริษัท Nano Seimitsu ซึ่งได้รับแง่มุมด้านการใช้งานจากบริษัทผู้ผลิตจำนวนมาก

【ข้อดีของการใช้งาน LQC】
■ ตรวจสอบชิ้นงานภายในไลน์การผลิตอย่างอัตโนมัติ
ตรวจสอบชิ้นงานทั้ง 3 หัวข้ออย่างอัตโนมัติ ได้แก่ ความผิดปกติของเครื่องมือวัด มาตรฐานในการผลิตและจุดการวัดหลังการผลิต

■ ป้อนข้อมูลอัตโนมัติด้วยเครื่องมือวัดแบบดิจิทัลและตัดสินข้อมูลด้านคุณภาพแบบเรียลไทม์
ด้วยการตัดสินชิ้นงาน NG แบบเรียลไทม์ จึงสามารถรองรับได้ทันทีเมื่อเกิดปัญหาขึ้น

■ การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ของข้อมูลการวัด
ด้วยการสร้างฐานข้อมูลการวัดอย่างอัตโนมัติ จึงทำให้สามารถระบุสาเหตุของชิ้นงานที่มีข้อบกพร่องได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย (เช่น คนงาน เครื่องจักร เครื่องมือ) ⇒ แสดงสาเหตุของปัญหาได้อย่างชัดเจน

ในกรณีของกระบวนการตัดของบริษัท TMT เนื่องจากอัตรางานเสียมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงคุณภาพที่มาจากการสึกเหรอของเครื่องมือ ทำให้การจัดการแนวโน้มด้านคุณภาพรายวัน (การตรวจสอบ) มีความสำคัญเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังสามารถตรวจหางานเสียได้ตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มต้น จนนำไปสู่การปรับปรุงและวิเคราะห์ PDCA ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสิ่งนี้เองเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างกระบวนการผลิตที่ยากต่อเกิดงานเสียหรืออาจกล่าวได้ว่า LQS เป็นโซลูชันที่เหมาะสมที่สุดในการบรรลุเป้าหมายนี้


มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตและดำเนินการแบบไม่ใช้กระดาษ เหมาะสำหรับโรงงานที่ดำเนินการผลิตชิ้นส่วนจำนวนมาก

“เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เราต้องเผชิญกับความท้าทายในการจดบันทึกการผลิตด้วยกระดาษ อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ใช้งาน LQS ไม่เพียงแค่งดการใช้กระดาษเท่านั้นแต่ยังสามารถวิเคราะห์และใช้ข้อมูลการวัดได้ทันที ซึ่งมีส่วนช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตได้อย่างมาก บริษัทของเราผลิตชิ้นงานที่มีความแม่นยำ (ช่วงความคลาดเคลื่อน 10-70 um) ซึ่งหลังจากใช้งาน LQS แล้วทำให้เราสามารถตรวจสอบผลลัพธ์ที่อยู่บนแผนภูมิพร้อมกับวัดแนวโน้มของการเกิดงานเสียได้ จึงทำให้ง่ายต่อการเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงขนาดของชิ้นงาน โดยปัจจุบันเรามี LQS ทั้งหมด 4 เครื่องและเราได้วางแผนที่จะใช้งานเพิ่มอีก 3 เครื่องภายในปีนี้เพื่อให้สามารถควบคุมเครื่องกลึง NC ทั้งหมดของเราได้” คุณ Watanabe ผู้จัดการโรงงาน TMT กล่าว

ผู้ใช้งานสามารถคาดหวังประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตได้ โดยสามารถปรับปรุงความสามารถของกระบวนการได้อย่างค่อยเป็นค่อยไปผ่านการสังเกตรายงานบันทึกการผลิต ซึ่งวิธีการนี้เองเป็นโซลูชันที่ทันสมัย เพราะไม่เพียงปรับปรุงคุณภาพด้านการผลิตแล้วแต่ยังนำไปสู่การทำให้โรงงานสามารถดำเนินการผลิตได้อย่างเหมาะสมที่สุดอีกด้วย


【ได้รับความร่วมมือจาก】

TOHOKU MANUFACTURING(Thailand)CO.,LTD
ก่อตั้งขึ้นในปี 2554 ดำเนินการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่มีความแม่นยำโดยวิธีการขึ้นรูปเย็นและการตัดเฉือน โดยมีโรงงานผลิตที่นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทองและมีจุดเด่นด้านการผลิตที่ครบวงจรตั้งแต่การขึ้นรูปโลหะไปจนถึงการตัดเฉือน



หากกังวลเกี่ยวกับการปรับปรุงคุณภาพหรือระบบการผลิตอัตโนมัติ ตลอดจนประสบปัญหาในการขจัดงานเสียในกระบวนการผลิต สามารถติดต่อเราได้ผ่านแบบฟอร์มด้านล่างนี้



แบบฟอร์มสอบถามข้อมูล

โปรดติดต่อเราโดยกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง

สามารถติดต่อได้ทางเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล

KOA-SHA (THAILAND) ผู้ให้บริการเว็บไซต์ (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "บริษัทของเรา") จะให้บริการต่างๆ (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "บริการนี้") ตามนโยบายความเป็นส่วนตัว (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "นโยบายนี้") ดังต่อไปนี้

คำนิยามของข้อมูลส่วนบุคคล

ในนโยบายนี้ คำว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวบุคคลที่ยังดำรงชีวิตอยู่ ชี้ถึงการที่สามารถแยกแยะตัวบุคคลได้จากชื่อและนามสกุล, วันเดือนปีเกิด และการให้รายละเอียดอื่นๆ รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง (รวมถึงข้อมูลที่สามารถเทียบเคียงกับข้อมูลอื่นๆ ได้ง่าย ซึ่งจะช่วยให้สามารถระบุตัวบุคคลได้)

การรับข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทของเราจะรับข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีความยุติธรรม

การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทของเราจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจ ภายในขอบเขตวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ ดังต่อไปนี้

  • เพื่อให้ข้อมูลที่เหมาะสมที่สุดแก่ผู้ใช้แต่ละรายในบริการนี้
  • เพื่อเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงคุณภาพของบริการนี้โดยการวิเคราะห์ทางสถิติ
  • เพื่อรองรับในการติดต่อสอบถามที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้
  • เพื่อเตรียมข้อมูลจากการดาวน์โหลดแคตตาล็อกให้กับบริษัทสมาชิกแต่ละแห่ง และดำเนินการทำแบบสอบถามที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้
  • เพื่อที่จะส่งคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และเคมเปญที่ดำเนินการโดยบริษัทของเรา
  • อื่นๆ วัตถุประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้กับวัตถุประสงค์การใช้งานที่ระบุในข้างต้น
เกี่ยวกับ Cookie

บริษัทของเราใช้ cookie ในเว็บไซต์ของบริการนี้ อีกทั้งในระบบการโฆษณาก็มีบางส่วนที่ใช้ cookie ด้วย Cookie เป็นเทคโนโลยีที่ใช้บันทึกประวัติการใช้งานที่ส่งและรับระหว่างเบราเซอร์กับเซิร์ฟเวอร์ลงเป็นไฟล์ในคอมพิวเตอร์เทอร์มินอลของผู้ใช้ หากคุณไม่ต้องการให้บริษัทของเราใช้ cookie ก็สามารถตั้งค่าปฏิเสธการใช้ cookie ในเบราเซอร์ของคุณเองได้ อย่างไรก็ตามในกรณีที่คุณปฏิเสธ cookie อาจเกิดผลกระทบตอนที่คุณเข้าใช้บริการนี้ในเว็บไซต์

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่สาม

บริษัทของเราจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่สามโดยไม่ได้รับความยินยอมจากตัวบุคคลก่อนล่วงหน้า เว้นในกรณีที่มีการบัญญัติตามกฎหมาย

อนึ่ง บริษัทของเราอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและเปิดเผยแก่บุคคลที่สามในกรณีดังต่อไปนี้

  • ในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้เอง
  • ในกรณีที่ได้รับการเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลจากคำพิพากษา, คำตัดสิน และคำสั่งตามกฎหมายของศาลและองค์กรบริหารต่างๆ เป็นต้น
  • ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้มาตรการการจัดการเพื่อป้องกันการรุกรานและป้องกันสิทธิและทรัพย์สินของบริษัทของเรา
  • ในกรณีที่จำเป็นต้องปกป้องชีวิตร่างกายหรือทรัพย์สินของ บริษัทของเรา ลูกค้า หรือบุคคลทั่วไปอื่น ๆ และเป็นการยากที่จะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้
  • ในกรณีที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการยกระดับสาธารณสุขและการส่งเสริมการพัฒนาสุขภาพของเด็กและเป็นการยากที่จะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้
  • ในกรณีที่หน่วยงานระดับชาติหรือหน่วยงานของรัฐในประเทศหรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ร่วมมือในการดำเนินกิจการตามที่กฎหมายกำหนดและได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ขัดขวางการปฏิบัติงานดังกล่าว เมื่อมีอันตรายอาจส่งผลต่อ
  • ในกรณีที่เปิดเผยและให้ข้อมูลในสภาพที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลผู้ใช้ด้วยข้อมูลทางสถิติได้
การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
  • บริษัทของเราจะเก็บรักษาความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลและจัดการข้อมูลนี้อย่างปลอดภัย
  • บริษัทของเราจะใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การทำลาย การปลอมแปลง และการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล
  • บริษัทของเราจะควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องเหมาะสมผ่านการปรับปรุงระบบการจัดการและการฝึกอบรมของพนักงาน และใช้มาตรการป้องกันไม่ให้ข้อมูลสูญหาย ถูกทำลาย ถูกปลอมแปลง และรั่วไหล
การร้องขอให้แจ้ง, เปิดเผย, แก้ไข, ระงับใช้ และอื่นๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่บริษัทของเราได้รับคำขอเกี่ยวกับการเปิดเผย การแก้ไข การเพิ่ม การลบ การระงับหรือการยกเลิกการใช้งาน การระงับการให้ข้อมูลแก่บุคคลที่สาม และการแจ้งวัตถุประสงค์การใช้งานเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลจากตัวลูกค้าเอง เมื่อยืนยันได้ว่าผู้ยื่นคำขอเป็นตัวจริงแล้ว บริษัทของเราจะดำเนินการด้วยความสุจริตและรวดเร็วตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

อนึ่ง ในกรณีที่คำขอไม่เป็นไปตามข้อกำหนดในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากมีเหตุผลที่สามารถยอมรับการปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลอื่นๆ ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายและข้อบังคับอื่นๆ บริษัทของเราก็อาจไม่สามารถปฏิบัติตามคำขอได้

นอกจากนี้ ในการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลและอื่นๆ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องชำระค่าธรรมเนียมให้กับบริษัทของเรา แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตอนที่ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารเพื่อยืนยันตัวตนตามข้อกำหนดข้างต้น รวมถึงค่าบริการด้านการสื่อสารและค่าขนส่งที่ลูกค้าจะส่งมาถึงบริษัทของเรา จะถือเป็นความรับผิดชอบของลูกค้าเอง

การเปลี่ยนแปลงแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทของเราจะทบทวนสถานะการบังคับใช้เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตามที่เห็นสมควร และจะพยายามปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และเราอาจเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามความจำเป็น นโยบายความเป็นส่วนตัวที่มีการเปลี่ยนแปลงจะมีการประกาศเมื่อถึงคราวจำเป็นบนเว็บไซต์นี้

ติดต่อ

ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทเรา ส่งอีเมล์มาได้ที่ msato@koasha.co.th

ข้อกำหนด ณ วันที่ 20 กันยายน ปี 2020

I have read and agree to the Privacy Policy
Please Wait
NEWS Other News
Contact Us
News
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงความสะดวกของเว็บไซต์
คุณสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายคุกกี้และการใช้งานเว็บไซต์ ต่อไป แสดงว่าคุณยินยอมให้ใช้คุกกี้