ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการผลิต การนำระบบดิจิทัลมาใช้จึงกลายเป็นเรื่องจำเป็นที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรม ในบทความครั้งนี้ ขอแนะนำระบบ MESenz ซึ่งเป็นโซลูชันระบบบริหารการผลิตที่ทันสมัยและครอบคลุม โดย Thai NS Solutions ได้พัฒนาร่วมกับ CSI Thailand เพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมการผลิตไทยอย่างครบถ้วน
บริษัท C.S.I. (Thailand) Co., Ltd. เป็นบริษัทไอทีสัญชาติไทย ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2534 โดยมีความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาและติดตั้งระบบซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจแบบ Made to Order โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิต และการควบคุมคลังสินค้า หลังจากนั้นได้ขยายการให้บริการด้วยการมีแพ็กเกจซอฟต์แวร์เป็นของตนเอง และมีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นในประเทศไทย
CSI Thailand และ Thai NS Solutions ได้เริ่มต้นการเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจกันมาอย่างยาวนาน โดยเริ่มต้นจากการแนะนำสินค้าของกันและกันให้กับกลุ่มลูกค้าที่สนใจ และเริ่มที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ไปอีกขั้นด้วยการดำเนินการ Collaboration Project และเกิดเป็นโซลูชัน MESenz ขึ้นมา
ทำไมต้องเป็น Thai NS Solutions
ด้วยการทำงานร่วมกันอย่างยาวนาน ทำให้ทั้งสองบริษัทรู้วิธีการทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี และยังมีจุดที่สามารถเติมเต็มซึ่งกันและกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการตลาดที่แข็งแกร่งในประเทศไทยของ Thai NS Solutions และความเชี่ยวชาญในพื้นที่ประเทศไทยของ CSI
โซลูชัน MESenz เปิดตัวเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมปี พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา โดยเป็นระบบ MES (Manufacturing Execution System) ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อบริหารจัดการการผลิตแบบเรียลไทม์ ซึ่งระบบนี้จะช่วยควบคุมและติดตามกระบวนการผลิตในโรงงานแบบเรียลไทม์ โดยสามารถเชื่อมต่อกับ ERP และระบบเครื่องจักรได้อย่างสมบูรณ์ ช่วยให้โรงงานสามารถลดของเสีย ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้
การทำงานแบบใดที่เหมาะกับ MESenz?
- ไม่ได้ติดตามการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง หรือไม่มีการจัดการผ่านระบบที่มีมาตรฐาน
- ขาดมาตรฐานในกระบวนการผลิต
- มีการติดตามการทำงานด้วยการบันทึกมือ
- การจัดการสินค้าคงคลังไม่มีประสิทธิภาพ
- กระบวนการทำงานที่มีความซับซ้อนและไม่มีประสิทธิภาพ
จุดเด่นของ MESenz แบ่งออกเป็น 3 ประการ ได้แก่
1. เสริมพลังด้านการผลิตและวางแผนการผลิตที่เสริมให้การทำงานมีประสิทธิภาพ
สามารถวางแผนการผลิตให้มีโครงสร้างที่ดี ช่วยให้มั่นใจในการใช้งานทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า นำไปสู่การลดเวลาในการหยุดทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม เพื่อนำไปสู่การมีผลผลิตที่สม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น อีกทั้ง ยังนำไปสู่ผลลัพธ์ด้านผลิตที่มีคุณภาพสูงผ่านกระบวนการผลิตที่คล่องตัวและการวางแผนที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณภาพของผลิตภัณฑ์มีความสม่ำเสมอ ลดข้อบกพร่อง และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์
2. เสริมพลังด้านการดำเนินการสินค้าคงคลัง
ด้วยการใช้เทคโนโลยีคิวอาร์โค้ด ทำให้สามารถลดการทำงานในการป้อนข้อมูลด้วยตนเองได้ นำไปสู่การลดข้อผิดพลาดทางข้อมูล อีกทั้งยังสามารถติดตามประวัติได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ
3. เสริมพลังด้านการซ่อมบำรุงเครื่องจักร
เพื่อให้เกิดความพร้อมด้านการผลิต การวางแผนและการซ่อมบำรุงเครื่องจักร อย่างสม่ำเสมอ และการตั้งค่าที่เหมาะสมช่วยให้เครื่องจักรอยู่ในสภาพที่ดี นำไปสู่ความมั่นใจในการผลิตที่มีความเสถียร มีประสิทธิภาพ และตรงตามมาตรฐานที่ตั้งไว้
MESenz เหมาะกับอุตสาหกรรมการผลิตที่มีความเฉพาะตัว เช่น
・ยานยนต์ เพราะต้องมีการติดตามผลการปฏิบัติงานแบบเรียลไทม์ ควบคุมคุณภาพและตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างแม่นยำ พร้อมกันนั้นยังต้องใช้งานร่วมกับระบบ ERP และระบบซัพพลายเชนได้อย่างเหมาะสม
・อิเล็กทรอนิกส์ เพราะต้องมีการตรวจสอบย้อนกลับที่มีความแม่นยำ รองรับการผลิตที่มีการผสมสูงแต่มีปริมาณน้อย
・อุตสาหกรรมการผลิตทั่วไป เพราะต้องจัดตารางการการผลิตที่มีความคล่องตัว และวิเคราะห์เวลาในการหยุดทำงาน การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ และการใช้แดชบอร์ดเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพการผลิต
จุดที่ทำให้ MESenz แตกต่างจากโซลูชันอื่นๆ คือ ความสามารถในการทำงานครอบคลุมทุกพื้นที่ในโรงงาน ทั้งในกระบวนการผลิต คลังสินค้า การซ่อมบำรุง และการควบคุมคุณภาพ ซึ่งต่างจากระบบอื่น ๆ ที่ควบคุมการผลิตเพียงอย่างเดียว อีกทั้งยังออกแบบให้สามารถเชื่อมต่อกับระบบ EPR, WMS หรือนำเข้าข้อมูลจากเครื่องจักรได้โดยตรง และเชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน พีซี และแท็บเล็ต จากจุดเด่นข้างต้น ส่งเสริมทิศทางการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการผลิตในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี กล่าวคือ ในช่วงหลังนี้อุตสาหกรรมการผลิตมีแนวโน้มใช้ระบบคลาวด์ และ Subscription มากขึ้น ตลอดจนการใช้ AI ในการทำงาน ซึ่งโซลูชัน MESenz ก็มีการใช้ AI-driven reporting (Machine Anomaly Detection) ในการทำงานเพื่อตรวจสอบการทำงานของเครื่องจักรว่ามีการทำงานผิดพลาดหรือไม่ และหากมีความผิดปกติจะแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้งาน กล่าวได้ว่า MESenz ครอบคลุมการทำงานในทุกส่วน โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องจัดเตรียมเซิร์ฟเวอร์ ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ พร้อมกันนั้นยังมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้บริการอีกด้วย ได้รับความร่วมมือจาก C.S.I. (Thailand) Co., Ltd.
▲ตัวอย่างแดชบอร์ดของ MESenz
ด้วยจุดเด่นที่มีความแตกต่าง ทำให้ MESenz ได้รับการตอบรับที่ดีจากโรงงานผู้ผลิตในประเทศไทยมากถึง 20 แห่ง
▲จุดเด่นของ MESenz
▲ตัวอย่างหน้าจอการตรวจจับความผิดปกติของเครื่องจักร
“เพื่อตอบสนองแนวโน้มการใช้งานในอนาคต เราได้วางแผนที่จะปรับแต่งฟังก์ชันใหม่ๆเพื่อตอบสนองการใช้งานภายในโรงงานในอนาคต” (คุณวรวิทย์ ตำแหน่ง Assistant Manager, Systems Planning & Engineering Department -I จากบริษัท Thai NS Solutions)
หากลูกค้าสนใจโซลูชัน MESenz หรือต้องการข้อมูลผลิตภัณฑเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ผ่านแบบฟอร์มด้านล่างนี้