Array ( [0] => stdClass Object ( [id] => 1 [company_id] => 87 [image_url] => company-87-company-87-Slider.jpg [image_link] => [image_popup] => 0 [slide_id] => 1 [slide_list_name] => all ) )
  • HOME
  • >
  • NEWS
  • >
  • มาตรการฉีดพ่นฆ่าเชื้อ เมื่อพบผู้ติดเชื้อภายในที่ทำงาน

มาตรการฉีดพ่นฆ่าเชื้อ เมื่อพบผู้ติดเชื้อภายในที่ทำงาน

24/08/2021
Sanipro (Thailand)

การฉีดพ่นฆ่าเชื้อ

※ภาพถ่ายตัวอย่าง

ในปัจจุบันนี้การติดเชื้อไวรัสโคโรน่าชนิดใหม่ที่แพร่ระบาดในประเทศไทยนั้น ก็ยังดูเหมือนจะไม่สิ้นสุดภายในเร็วๆนี้ อีกทั้งการที่ไวรัสนั้นกลายพันธุ์อยู่เรื่อยๆ ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและการติดเชื้อเพิ่มขึ้น สถานการณ์ที่ยังคงรุนแรงเช่นนี้ จึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและธุรกิจต่างๆ เช่น ร้านอาหาร โรงงาน และบริษัทในอุตสาหกรรมอื่นๆเช่นกัน

ตั้งแต่เกิดการระบาดของตลาดอาหารทะเล ทางบริษัทฯ ได้รับคำถามมากมายจากโรงงานและสำนักงานถามว่า "มีพนักงานที่ติดเชื้อ ควรจะปฏิบัติมาตรการฆ่าเชื้อภายในพื้นที่ได้อย่างไรบ้าง"

เนื่องจาก Sanipro ได้ให้บริการด้านสุขอนามัยสำหรับภาคธุรกิจและไซต์งานการผลิต ในประเทศญี่ปุ่นมานานกว่า 60 ปี เราจึงให้ บริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อ ในประเทศไทยด้วยเช่นกัน เพื่อสนับสนุนมาตรการป้องกันและการรับมือกับโรคระบาด สำหรับธุรกิจในท้องถิ่น


การฉีดพ่นฆ่าเชื้อนั้น โดยจริงแล้วมีผลเพียงระยะสั้น แต่เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความสบายใจ บรรเทาความแตกตื่นและความกังวลของพนักงานของท่านได้


เมื่อมีการพบผู้ติดเชื้อภายในพื้นที่ ควรดำเนินการติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและทำการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโดยเร็ว ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญที่คำนึงถึงความปลอดภัยและความมั่นคงของบริษัท โดยเหตุการณ์โรคระบาดไวรัสชนิดใหม่นี้ ได้สร้างความตึงเครียดและความลำบากอย่างมากให้แก่ทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่นเช่นกัน ซึ่งในกรณีที่พบผู้ติดเชื้อภายในบริษัทหรือองค์กร หากฝ่ายบริหารปิดบังข้อมูลหรือไม่ใช้มาตรการใดๆในการรับมือโดยเร็ว อาจนำไปสู่ข่าวลืออันไม่พึงประสงค์และก่อให้เกิดความกังวลและความแตกตื่นภายในหมู่พนักงานได้ ดังนั้น การเปิดเผยข้อมูลโดยการประกาศที่รวดเร็วและถูกต้องตามมาตรการขององค์กรจึงเป็นสิ่งสำคัญในการรับมือเบื้องต้น ซึ่งจะนำไปสู่การป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ดีขึ้น

จากประสบการณ์ในการบริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อให้แก่ลูกค้า ทางเรามักจะได้รับคำขอให้ดำเนินการฉีดพ่นฆ่าเชื้อในพื้นที่เฉพาะที่ผู้ติดเชื้อได้ใช้หรือผ่าน เช่น ล็อคเกอร์เก็บของ โรงอาหาร ห้องน้ำ และทางเดินต่างๆ แต่ท้ายที่สุดในกรณีส่วนใหญ่ ทางลูกค้าจะให้ขยายพื้นที่ในการฉีดพ่น โดยมีหนึ่งสาเหตุคือ พนักงานส่วนอื่นอาจรู้สึกไม่สบายใจ เมื่อไม่ทำการฆ่าเชื้อให้ในส่วนของพื้นที่อื่นด้วยเช่นกัน จึงต้องทำการขยายพื้นที่หรือทั่วทั้งโรงงาน สำหรับการฆ่าเชื้อในที่สุดเพื่อความสบายใจของส่วนรวม

ในฐานะทีมผู้เชี่ยวชาญ Sanipro สามารถให้คำแนะนำและเสนอถึงพื้นที่/ขอบเขตในการทำฆ่าเชื้อที่เหมาะสม ตลอดจนลำดับในการจัดการพื้นที่นั้นๆ นอกจากนี้ อีกหนึ่งคำถามที่พบบ่อยคือ "เมื่อทำการฆ่าเชื้อเสร็จแล้ว จะปลอดภัยใช่ไหม?" ซึ่งต้องเข้าใจว่า การฆ่าเชื้อนั้นสามารถกำจัดเชื้อโรคได้จริง แต่ไม่ถาวร จึงอาจทำให้สงสัยว่าแล้วทำไมต้องฉีดพ่นฆ่าเชื้อ? ทั้งนี้ นอกจากการกำจัดเชื้อได้จริงในระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่สภาพแวดล้อมจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมโดยธรรมชาติ (มีคนเข้าออก การใช้พื้นที่เกิดขึ้น ฯลฯ) อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ คือ การบรรเทาความวิตกกังวลและสร้างความสบายใจให้แก่พนักงานนั่นเอง

การฉีดพ่นฆ่าเชื้อ

▲บริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโดยมืออาชีพ เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่เชื้อ และเสริมสร้างความสบายใจให้แก่ผู้คน

เมื่อทำการฉีดพ่นเสร็จสิ้นแล้ว ทางเราสามารถออกเอกสารรับรอง Disinfection Certificate ให้แก่ท่าน เพื่อนำไปติดเป็นใบประกาศและหลักฐานในการดำเนินการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง

ผลิตภัณฑ์น้ำยาฆ่าเชื้อ Avanta A415

▲เราใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาฆ่าเชื้อ Avanta A415 ใช้ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสบนพื้นผิว ฝาผนัง เครื่องสุขภัณฑ์ และวัสดุอื่นๆ

สร้างทีมรับมือการฆ่าเชื้อเบื้องต้นด้วยตัวเราเองกันเถอะ!


โดยปกติแล้วเมื่อได้รับการติดต่อจากลูกค้าที่ต้องการบริการฆ่าเชื้อ ทางเราสามารถจัดส่งทีมงานให้ลงพื้นที่ได้ภายในวันเดียวกัน หรือในวันถัดไปอย่างช้าที่สุด แต่หากท่านต้องการดำเนินการทันทีทันใด ก็สามารถกำหนดมาตรการภายในเพิ่มเติม เช่นการจัดตั้งทีมรับมือฆ่าเชื้อเบื้องต้น ในกรณีเช่นนี้ ทางเราสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการใช้เครื่องฉีดพ่นและน้ำยาฆ่าเชื้อ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับบริษัทหรือองค์กรที่ต้องการดำเนินการฆ่าเชื้อภายในบ่อยๆได้เช่นกัน

บทสรุป
1. การประกาศเปิดเผยข้อมูล ควรปฏิบัติโดยเร็ว
2. ดำเนินการฉีดพ่นฆ่าเชื้อพื้นที่โดยเร็ว
3. ติดใบประกาศ ใบรับรองการฉีดพ่นฆ่าเชื้อ
4. ในกรณีที่ไม่สามารถรับบริการฆ่าเชื้อได้ทันที ควรจัดตั้งทีมงานภายในเพื่อการฆ่าเชื้อเบื้องต้น


หากท่านมีความสนใจในบริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อของเรา หรือต้องการคำแนะนำใดๆ กรุณาติดต่อมาได้เลยครับ



แบบฟอร์มสอบถามข้อมูล

โปรดติดต่อเราโดยกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง

สามารถติดต่อได้ทางเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล

KOA-SHA (THAILAND) ผู้ให้บริการเว็บไซต์ (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "บริษัทของเรา") จะให้บริการต่างๆ (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "บริการนี้") ตามนโยบายความเป็นส่วนตัว (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "นโยบายนี้") ดังต่อไปนี้

คำนิยามของข้อมูลส่วนบุคคล

ในนโยบายนี้ คำว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวบุคคลที่ยังดำรงชีวิตอยู่ ชี้ถึงการที่สามารถแยกแยะตัวบุคคลได้จากชื่อและนามสกุล, วันเดือนปีเกิด และการให้รายละเอียดอื่นๆ รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง (รวมถึงข้อมูลที่สามารถเทียบเคียงกับข้อมูลอื่นๆ ได้ง่าย ซึ่งจะช่วยให้สามารถระบุตัวบุคคลได้)

การรับข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทของเราจะรับข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีความยุติธรรม

การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทของเราจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจ ภายในขอบเขตวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ ดังต่อไปนี้

  • เพื่อให้ข้อมูลที่เหมาะสมที่สุดแก่ผู้ใช้แต่ละรายในบริการนี้
  • เพื่อเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงคุณภาพของบริการนี้โดยการวิเคราะห์ทางสถิติ
  • เพื่อรองรับในการติดต่อสอบถามที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้
  • เพื่อเตรียมข้อมูลจากการดาวน์โหลดแคตตาล็อกให้กับบริษัทสมาชิกแต่ละแห่ง และดำเนินการทำแบบสอบถามที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้
  • เพื่อที่จะส่งคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และเคมเปญที่ดำเนินการโดยบริษัทของเรา
  • อื่นๆ วัตถุประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้กับวัตถุประสงค์การใช้งานที่ระบุในข้างต้น
เกี่ยวกับ Cookie

บริษัทของเราใช้ cookie ในเว็บไซต์ของบริการนี้ อีกทั้งในระบบการโฆษณาก็มีบางส่วนที่ใช้ cookie ด้วย Cookie เป็นเทคโนโลยีที่ใช้บันทึกประวัติการใช้งานที่ส่งและรับระหว่างเบราเซอร์กับเซิร์ฟเวอร์ลงเป็นไฟล์ในคอมพิวเตอร์เทอร์มินอลของผู้ใช้ หากคุณไม่ต้องการให้บริษัทของเราใช้ cookie ก็สามารถตั้งค่าปฏิเสธการใช้ cookie ในเบราเซอร์ของคุณเองได้ อย่างไรก็ตามในกรณีที่คุณปฏิเสธ cookie อาจเกิดผลกระทบตอนที่คุณเข้าใช้บริการนี้ในเว็บไซต์

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่สาม

บริษัทของเราจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่สามโดยไม่ได้รับความยินยอมจากตัวบุคคลก่อนล่วงหน้า เว้นในกรณีที่มีการบัญญัติตามกฎหมาย

อนึ่ง บริษัทของเราอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและเปิดเผยแก่บุคคลที่สามในกรณีดังต่อไปนี้

  • ในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้เอง
  • ในกรณีที่ได้รับการเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลจากคำพิพากษา, คำตัดสิน และคำสั่งตามกฎหมายของศาลและองค์กรบริหารต่างๆ เป็นต้น
  • ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้มาตรการการจัดการเพื่อป้องกันการรุกรานและป้องกันสิทธิและทรัพย์สินของบริษัทของเรา
  • ในกรณีที่จำเป็นต้องปกป้องชีวิตร่างกายหรือทรัพย์สินของ บริษัทของเรา ลูกค้า หรือบุคคลทั่วไปอื่น ๆ และเป็นการยากที่จะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้
  • ในกรณีที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการยกระดับสาธารณสุขและการส่งเสริมการพัฒนาสุขภาพของเด็กและเป็นการยากที่จะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้
  • ในกรณีที่หน่วยงานระดับชาติหรือหน่วยงานของรัฐในประเทศหรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ร่วมมือในการดำเนินกิจการตามที่กฎหมายกำหนดและได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ขัดขวางการปฏิบัติงานดังกล่าว เมื่อมีอันตรายอาจส่งผลต่อ
  • ในกรณีที่เปิดเผยและให้ข้อมูลในสภาพที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลผู้ใช้ด้วยข้อมูลทางสถิติได้
การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
  • บริษัทของเราจะเก็บรักษาความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลและจัดการข้อมูลนี้อย่างปลอดภัย
  • บริษัทของเราจะใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การทำลาย การปลอมแปลง และการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล
  • บริษัทของเราจะควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องเหมาะสมผ่านการปรับปรุงระบบการจัดการและการฝึกอบรมของพนักงาน และใช้มาตรการป้องกันไม่ให้ข้อมูลสูญหาย ถูกทำลาย ถูกปลอมแปลง และรั่วไหล
การร้องขอให้แจ้ง, เปิดเผย, แก้ไข, ระงับใช้ และอื่นๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่บริษัทของเราได้รับคำขอเกี่ยวกับการเปิดเผย การแก้ไข การเพิ่ม การลบ การระงับหรือการยกเลิกการใช้งาน การระงับการให้ข้อมูลแก่บุคคลที่สาม และการแจ้งวัตถุประสงค์การใช้งานเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลจากตัวลูกค้าเอง เมื่อยืนยันได้ว่าผู้ยื่นคำขอเป็นตัวจริงแล้ว บริษัทของเราจะดำเนินการด้วยความสุจริตและรวดเร็วตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

อนึ่ง ในกรณีที่คำขอไม่เป็นไปตามข้อกำหนดในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากมีเหตุผลที่สามารถยอมรับการปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลอื่นๆ ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายและข้อบังคับอื่นๆ บริษัทของเราก็อาจไม่สามารถปฏิบัติตามคำขอได้

นอกจากนี้ ในการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลและอื่นๆ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องชำระค่าธรรมเนียมให้กับบริษัทของเรา แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตอนที่ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารเพื่อยืนยันตัวตนตามข้อกำหนดข้างต้น รวมถึงค่าบริการด้านการสื่อสารและค่าขนส่งที่ลูกค้าจะส่งมาถึงบริษัทของเรา จะถือเป็นความรับผิดชอบของลูกค้าเอง

การเปลี่ยนแปลงแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทของเราจะทบทวนสถานะการบังคับใช้เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตามที่เห็นสมควร และจะพยายามปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และเราอาจเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามความจำเป็น นโยบายความเป็นส่วนตัวที่มีการเปลี่ยนแปลงจะมีการประกาศเมื่อถึงคราวจำเป็นบนเว็บไซต์นี้

ติดต่อ

ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทเรา ส่งอีเมล์มาได้ที่ msato@koasha.co.th

ข้อกำหนด ณ วันที่ 20 กันยายน ปี 2020

I have read and agree to the Privacy Policy
Please Wait
NEWS Other News
Contact Us

Sales Manager
Mobile: +66(0)85-2322-352

Admin
Mobile: +66(0)65-938-8252

日本語対応
Marumoto (丸本)
Email: marumoto@sanipro.co.jp

News
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงความสะดวกของเว็บไซต์
คุณสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายคุกกี้และการใช้งานเว็บไซต์ ต่อไป แสดงว่าคุณยินยอมให้ใช้คุกกี้