เครื่องอัดอากาศหรือคอมเพรสเซอร์มักถูกใช้งานในโรงงานผลิตต่างๆ เช่น รถยนต์ เครื่องจักรที่มีความแม่นยำเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อาหาร ยา และอื่นๆ อย่างไรก็ตาม โรงงานที่สามารถรวบรวมและแสดงข้อมูลจากเครื่องอัดอากาศ อุปกรณ์ต่อพ่วง และท่อต่างๆ ยังคงเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น โดยในบทความนี้ เราจะแนะนำ "PRESAGE Series" ระบบควบคุมที่รวบรวมและตรวจสอบข้อมูลทั่วทั้งโรงงานเพื่อนำไปสู่การประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พิเศษที่พัฒนาโดย ITI Compressor ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ของเหลวอเนกประสงค์
สำหรับระบบนี้ไม่เพียงแต่ครอบคลุมคอมเพรสเซอร์เท่านั้นแต่ยังรวมถึงเครื่องดักฝุ่น เครื่องปรับอากาศแบบแพ็คเกจ ปั๊มน้ำเย็น/น้ำร้อน สำหรับเครื่องปรับอากาศส่วนกลาง ปั๊มน้ำหล่อเย็นและอุปกรณ์อื่นๆ ทั่วทั้งโรงงาน โดยถือเป็นระบบตรวจสอบบนคลาวด์ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพลังงาน อัตราการไหล แรงดัน (รวมถึงเทอร์มินอล) จุดน้ำค้าง สถานะและเวลาทำงาน พร้อมกันนั้นยังสามารถเข้าถึงได้ผ่านอินเทอร์เน็ตหรือ LAN ภายใน ซึ่งระบบควบคุมประหยัดพลังงานนี้มาพร้อมกับระบบตรวจสอบในตัวที่สามารถเลือกติดตั้งระบบหนึ่งและเพิ่มอีกหนึ่งระบบได้เช่นกัน
สำหรับโรงงานผลิตสารเคมี อุปกรณ์ด้านความแม่นยำ และเซมิคอนดักเตอร์ สามารถใช้เซ็นเซอร์จุดน้ำค้างเพื่อตรวจสอบจุดน้ำค้างและสามารถใช้ควบคุม แจ้งเตือนการหยุดจ่ายอากาศเพื่อช่วยปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ได้
Yamakyu (Thailand) แนะนำให้ใช้ระบบนี้ร่วมกับคอมเพรสเซอร์ของ Mitsui Seikiซึ่งจ่ายลมอัดคุณภาพสูงและมีความแม่นยำสูงเมื่อเปลี่ยนอุปกรณ์เดิม เนื่องจากการรวมระบบนี้เข้ากับระบบควบคุมและตรวจสอบจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้นได้
ถึงแม้โรงงานหลายแห่งจะพยายามประหยัดพลังงานและแสดงภาพอุปกรณ์แต่กลับประสบปัญหาเครื่องหยุดทำงานและหยุดทำงานหลังจากการติดตั้งครั้งแรกซึ่งสาเหตุมาจากการจัดการอุปกรณ์มีความซับซ้อนและไม่สามารถปรับปรุงการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องเพราะมีผู้ผลิตและรุ่นที่แตกต่างกัน ตลอดจนอุปกรณ์ที่กระจายอยู่ภายในโรงงานมีจำนวนมาก การรวบรวมข้อมูลจึงเป็นเรื่องยากและข้อมูลที่ได้มาก็มักถูกประมวลผลด้วยมือทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานลดลง นอกจากนี้ ยังขาดความรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานและการปรับปรุงต้นทุน เช่น การอัพเกรดอุปกรณ์ ซึ่งเราในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์นิวเมติกส์อเนกประสงค์ จึงขอนำเสนอระบบควบคุมและตรวจสอบทั่วทั้งโรงงานพร้อมโซลูชันที่เหมาะสมที่สุดและอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่ปรับให้เข้ากับสถานะการทำงานของอุปกรณ์
ระบบควบคุมคอมเพรสเซอร์ รุ่น PRESAGE-SX เป็นที่นิยมใช้มากที่สุดในโรงงานที่มีคอมเพรสเซอร์ขนาด 37-75 กิโลวัตต์ซึ่งถูกติดตั้งอยู่ 3-6 เครื่อง และทำงานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ซึ่งระบบควบคุมจำนวน คือ ระบบควบคุมที่ปรับการทำงานของคอมเพรสเซอร์หลายเครื่องที่เชื่อมต่ออยู่ในท่อเดียวกันให้เหมาะสมที่สุด โดยจะควบคุมการทำงานอัตโนมัติตามแรงดันที่ตรวจพบจากถังซึ่งช่วยให้คอมเพรสเซอร์หลายเครื่องทำงานโดยอัตโนมัติเสมือนเป็นคอมเพรสเซอร์อินเวอร์เตอร์ขนาดใหญ่เครื่องเดียว จึงช่วยลดจำนวนคอมเพรสเซอร์อินเวอร์เตอร์ที่มีราคาสูง
【อัตราการประหยัดพลังงานที่มีประสิทธิภาพเมื่อติดตั้ง PRESAGE-SX】
ไม่ได้ติดตั้งแผงควบคุมยูนิต | อัปเดตแผงควบคุมยูนิตที่มีอยู่ | |
ชุดจ่ายลมแบบผสมหล่อลื่นด้วยน้ำมัน ชุดจ่ายลมแบบต่างๆ (ไม่มี INV) | 15~40% | 5~20% |
ชุดจ่ายลมแบบหล่อลื่นด้วยน้ำมัน ชุดจ่ายลมแบบเดียวกันเท่านั้น (ไม่มี INV) | 10~35% | 2~10% |
ชุดจ่ายลมแบบไม่ใช้น้ำมันเท่านั้น (ไม่มี INV) | 5~20% | 3~10% |
ชุดจ่ายลมแบบผสมและชุดจ่ายลมความเร็วคงที่ (1-2 ชุด INV) | 5~20% | 5~15% |
มากกว่าครึ่งหนึ่งของชุดจ่ายลมทั้งหมดเป็นชุด INV | 1~7% | 1~7% |
มากกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาตรลมทั้งหมดมาจากชุดจ่ายลมขนาดใหญ่ชุดเดียว | 1~3% | 1~3% |
* สรุปผลการตรวจสอบหลังส่งมอบสินค้าประมาณ 400 ยูนิต
ผู้ที่สนใจต้องกรอกแบบฟอร์มสำรวจเบื้องต้น จากนั้นเราจะทำการวินิจฉัยผลการประหยัดพลังงานและสำรวจสถานะการแสดงผล ซึ่งหากคาดว่าจะประหยัดพลังงานได้ เราจะดำเนินการตรวจวัดโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและส่งรายงานคาดการณ์ผลการประหยัดพลังงานให้กับลูกค้า
*หากใช้เวลาเดินทางจากบริษัท (ในกรุงเทพฯ) มากกว่า 2 ชั่วโมง อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
เครื่อง "PRESAGE" เครื่องแรกได้เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อ 10 ปีที่แล้วและจำนวนการติดตั้งก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและได้รับความสนใจอย่างมากจากบริษัทต่างๆ ที่ต้องการไม่ใช่แค่เพื่อการอนุรักษ์พลังงานเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการพัฒนาด้านคุณภาพด้วย อีกทั้ง ยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้าน "การปรับปรุง/เพิ่มคอมเพรสเซอร์ ทำให้หลายบริษัทต้องการพิจารณาระบบควบคุมจำนวนเครื่องไปพร้อมๆ กัน" และ "ต้องการรวมระบบตรวจสอบเพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อนำไปสู่การประหยัดพลังงาน" ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า "PRESAGE" สามารถนำเสนอการอนุรักษ์พลังงานและการแสดงผลที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริหารและผู้พัฒนา พร้อมกันนั้นยังมีศักยภาพที่สามารถเติบโตอย่างมากในประเทศไทยอีกด้วย