เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายบริษัทและโรงงานต่างๆ ไม่สามารถดำเนินงานและการผลิตได้ตามปกติและด้วยมาตรการของรัฐในช่วงที่ผ่านมา บางที่ก็จำเป็นต้องเปิด-ปิดกิจการ ซึ่งในกรณีของโรงงานที่มีพื้นที่ semi-outdoor ที่กว้างและโล่ง เมื่อมีคนเข้าออกและใช้สอยพื้นที่น้อยลงกว่าปกติเป็นเวลานาน อาจทำให้มีการบุกรุกของสัตว์ที่มารบกวนมากขึ้นตามสภาพได้
โรงงานและพื้นที่ที่คนเข้าออกและใช้งานน้อยลงนั้นจะดึงดูดนกให้เข้ามาทำรังและอยู่อาศัยมากขึ้น ซึ่งทำให้เกิดปัญหาที่พบได้บ่อยที่สุด คือ ทำให้เกิดปัญหาด้านสุขอนามัยและปัญหาการปนเปื้อนกับสินค้าหรือผลผลิตที่เกิดจากมูลหรือขนนก โดยสิ่งเหล่านี้สามารถนำไปสู่ความเสียหายต่อทรัพย์สินและอัตราการเกิดโรคที่สูงขึ้นในหมู่นกพิราบและอาจกลายเป็นโรคที่ติดต่อไปถึงคนได้ด้วย (เช่น โรคไข้หวัดนก H5N1) และหากมีการปนเปื้อนไปกับสินค้า จะทำให้เกิดความเสียหายที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์องค์กรด้วยเช่นกัน
สำหรับการป้องกันและควบคุมนก ควรประเมินสถานการณ์และระดับการบุกรุกก่อนเป็นอย่างแรก เพื่อตัดสินใจว่าควรจะให้ผู้เชี่ยวชาญออกแบบมาตรการป้องกันหรือไม่ โดยปัจจัยแรกที่ต้องพิจารณาคือการเข้ามาอยู่อาศัยของนกว่าได้เข้ามาทำรังภายในพื้นที่แล้วหรือไม่ ซึ่งจะถูกแยกออกมาเป็น 2 กรณีหลักและมาตรการรับมือที่ต่างกันไป ดังต่อไปนี้
1. ในกรณีที่ยังไม่มีการทำรังและวางไข่
หากพบว่ามีนกบินไปบินมาและเข้ามาเกาะตามที่ต่างๆภายในพื้นที่แต่ยังไม่ได้ทำรัง ก็ยังมีโอกาสที่จะทำการป้องกันและไล่นกด้วยตนเองได้ โดยไม่ต้องใช้บริการของมืออาชีพ ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
・การทำความสะอาดพื้นที่บ่อยๆ
・การไล่นกด้วย laser pointer (ยิงลำแสงเพื่อสร้างความรำคาญแก่นก)
・การติดตั้ง sheet shutter door ระหว่างด้านนอกและด้านในอาคารเพื่อลดการบุกรุก
・การติดตั้งสิ่งของสะท้อนแสง เช่น ผูกห้อยแผ่น CD จากหลังคาหรือเพดาน
・การทำเสียงดัง (เช่น ตบมือดังๆ) เมื่อเห็นนกบินเข้ามาใกล้ๆ
การทำความสะอาดพื้นที่อย่างสม่ำเสมอถือเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากเป็นการรักษาสภาพแวดล้อมที่ดีและส่งเสริมสุขภาพที่ดีสำหรับผู้คนในพื้นที่ อีกทั้งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กรด้วยเช่นกัน ซึ่งมูลนกที่ถูกปล่อยไว้เป็นเวลานานเมื่อแห้งแล้วจะกลายเป็นผงและอาจเกิดการกระจายด้วยลมที่พัดมา ซึ่งถ้าหากมีคนหายใจเข้าไป จะส่งผลให้แพร่เชื้อโรคได้ (เช่น โรคคริปโตคอกโคสิส เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อรา Cryptococcus neoformans ส่วนใหญ่เชื้อเป็นอันตรายต่อคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ)
2. ในกรณีที่ทำรังและวางไข่แล้ว
เนื่องจากความดื้อรั้นของนกที่เพิ่มขึ้นหลังจากการทำรัง วิธีเบื้องต้นที่ทำได้ด้วยตนเองอาจไม่ได้ผล จึงควรที่จะยกระดับมาตรการป้องกัน ที่ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพตามมาตรการดังต่อไปนี้
・บริการที่รวมถึงการทำความสะอาดฆ่าเชื้อ
・การติดตั้งเจลไล่นก (Bird Repellent Gel
・การติดตั้งตาข่ายกันนก (Bird-proof Net)
・การติดตั้งลวดหรือหนามกันนก (Bird Wire / Spikes)
ถึงแม้ว่านกพิราบจะดูอ่อนโยนและเชื่อง แต่ก็ขึ้นชื่อเรื่องความดื้อรั้นเช่นกัน จึงเป็นเรื่องปกติที่การป้องกันและไล่นกออกจากพื้นที่นั้น อาจใช้เวลานานถึง 2-3 เดือน แต่ทีมงาน SANIPRO ของเราที่เชี่ยวชาญ จะคอย follow-up อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าได้รับผลลัพธ์ที่สูงสุดและยาวนาน
อย่างไรก็ตาม การที่จะก่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อมีการออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันนกตั้งแต่แรกที่เริ่มการก่อสร้างโครงสร้างอาคาร และในกรณีส่วนใหญ่นั้น จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งได้มากกว่าการติดตั้งภายหลังด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ จากประสบการณ์ที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ต่างๆ ได้เคยค้นพบอีกสาเหตุหนึ่งที่ดึงดูดนกก็คือ มีคนในพื้นที่แอบให้อาหารนกนั่นเอง
บทสรุป แนวทางปฏิบัติ
1. ทำความสะอาดพื้นที่เป็นประจำ
2. หากพบว่ามีการทำรังของนก ควรติดต่อมืออาชีพเพื่อการประเมินก่อนอื่นใด
3. การดำเนินมาตรการป้องกันนั้นเร็วเท่าไหร่ยิ่งเห็นผลมากกว่า
4. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีใครในพื้นที่แอบให้อาหารนก
Sales Manager
Mobile: +66(0)85-2322-352
Admin
Mobile: +66(0)65-938-8252
日本語対応
Marumoto (丸本)
Email: marumoto@sanipro.co.jp